สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา นำคณะนักธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรจากไนจีเรียเข้าร่วมงานมหกรรมแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลเกษตรไทย ประจำปี ๒๕๖๕

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา นำคณะนักธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรจากไนจีเรียเข้าร่วมงานมหกรรมแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลเกษตรไทย ประจำปี ๒๕๖๕

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 ธ.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 ธ.ค. 2565

| 7,044 view

เมื่อวันที่ ๖-๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ นายสุพัฒน์ สระน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงอาบูจา และนายภาวัสส์ เรืองวิชาธร ที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา ได้นำคณะนักธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรจากไนจีเรียเข้าร่วมงานมหกรรมแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลเกษตรไทย ประจำปี ๒๕๖๕ (Thailand Tractor & Agri-Machinery Show 2565 – ThaiTAM)  จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสภาอุตสาหกรรมเห่งประเทศไทยงาน ThaiTAM เป็นการรวมตัวของผู้ผลิตเเละจำหน่าย/ส่งออกอุปกรณ์เเละเครื่องจักรกลการเกษตของไทยที่ใหญ่ที่สุดเเละได้รับความสนใจจากนักธุรกิจชาวไนจีเรียเป็นอย่างมาก งานดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจากต่างประเทศได้รู้ถึงศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรกลของประเทศไทยซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการเกษตรของไทยให้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรกรรมของไทย พร้อมต่อยอดสร้างเป็นสินค้าส่งออกที่นำเงินตรามาสู่ประเทศ

ในระหว่างการเยือนดังกล่าว คณะนักธุรกิจไนจีเรียได้พบปะกับผู้ประกอบการชั้นนำของไทยเป็นจำนวนมาก ได้มีการจัด business matching อย่างเต็มรูปแบบ และอยู่ระหว่างการขยายผลทางธุรกิจซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี ในงานมีการจัดการสาธิตวิธีใช้งานของเครื่องจักรกลการเกษตร รถแทรกเตอร์ และโดรนการเกษตรหลากหลายประเภท คณะนักธุรกิจไนจีเรียได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และหารือเกี่ยวกับแนวทางการสร้างเครือข่าย/ความร่วมมือทางเทคนิค/วิชาการ ระหว่างไทยและไนจีเรีย

โครงการดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นักธุรกิจไนจีเรียให้ความสำคัญกับสินค้าการเกษตรของไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเครื่องจักรการเกษตรขนาดเล็กที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดท้องถิ่น เนื่องจากไนจีเรียมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการเกษตรเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการเพาะปลูกข้าว จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่นักธุรกิจไนจีเรียยึดมั่นในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าไทยมาโดยตลอด แม้ในช่วงหลังสินค้าจากจีนจะมีราคาที่ถูกกว่าก็ตาม แต่นักธุรกิจไนจีเรียพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สินค้าของไทยมีความคงทนและมีคุณภาพที่ดีกว่าสินค้าจากจีน กอปรกับนโยบายการดูแลหลังการขายของไทยที่มีความเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา และเป็นมิตรมากกว่า จึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้นักธุรกิจไนจีเรียเป็นจำนวนมากยังเลือกที่จะซื้อสินค้าด้านการเกษตรจากไทย

โครงการดังกล่าวมีส่วนในการช่วยส่งเสริม กระตุ้น เเละฟื้นฟูการค้าระหว่างไทยเเละไนจีเรียภายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ เป็นการขยายบทบาทของภาคเอกชนไทยทางด้านการค้าโดยเฉพาะด้านการเกษตรเเละเครื่องจักรกลการเกษตรในไนจีเรีย และสนับสนุนเเละส่งเสริมการส่งออกของสินค้าคุณภาพของไทย โดยเฉพาะการเเสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และช่วยสนับสนุนนโยบายการพัฒนาภาคการเกษตรของไนจีเรีย เป็นการสร้าง win-win situation ให้กับไทยเเละไนจีเรีย เเละเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ