นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 พ.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 3 พ.ค. 2565

| 4,403 view

นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑ - ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย และหารือข้อราชการกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีในช่วงเย็นของวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นทั้งในมิติทวิภาคี อนุภูมิภาคและภูมิภาค และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน

 

นายกรัฐมนตรีทั้งสองยินดีต่อพัฒนาการความสัมพันธ์ไทย - ญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสการครบรอบ ๑๓๕ ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และการครบรอบ ๑๐ ปี ของการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในปีนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นประโยชน์ที่จะหารือกันเพื่อพิจารณายกระดับสถานะความสัมพันธ์จาก “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” เป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” เพื่อสะท้อนความแน่นแฟ้นและความเจริญก้าวหน้าของสัมพันธ์

 

ในด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ผู้นำทั้งสองฝ่ายแสดงความประสงค์ที่จะหาข้อสรุปและประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในระยะ ๕ ปี ภายในปีนี้เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน และแสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ยา ดิจิทัล และเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรฐกิจสีเขียวในพื้นที่ต่าง ๆ ของไทย รวมทั้งการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะสอดประสานโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียว (Green Growth Strategy) ของญี่ปุ่น และร่วมมือกันในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการลงทุนจากญี่ปุ่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เศรษฐกิจดิจิทัล และ 5G  การส่งเสริม SME และ Startup ที่มีนวัตกรรม รวมถึงการส่งเสริมการค้า โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย้ำว่าไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในภูมิภาค และญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจในสาขาต่าง ๆ  โดยเฉพาะอุตสาหกรรม EV และ Startup ที่มีนวัตกรรม

 

ในด้านสาธารณสุข ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์โควิด-๑๙ โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-๑๙ อาทิ การมอบวัคซีนประเภท Astra Zeneca กว่า ๒ ล้านโดส และอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บวัคซีน ทั้งสองฝ่ายยังได้ยืนยันความพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือในด้านสาธารณสุขระหว่างกันเพื่อรองรับโรคอุบัติใหม่ที่อาจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ในด้านการเมืองและความมั่นคง นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านความมั่นคง กลาโหมและด้านยุติธรรม และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในประเทศที่สาม รวมถึงการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายแสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอาเซียน - ญี่ปุ่น ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน - ญี่ปุ่น (๒๕๖๔ - ๒๕๖๗) และในโอกาสการครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในปี ๒๕๖๖ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่ศักยภาพภายใต้เอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก กับแนวคิดอินโด-แปซิฟิกที่เสรี และเปิดกว้างของญี่ปุ่น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สนใจร่วมกัน อาทิ สถานการณ์ในเมียนมา สถานการณ์ในยูเครน สถานการณ์ในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี การปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และการลดอาวุธและไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์

                   

ในโอกาสที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันที่จะเดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ และสนับสนุนไทยในการจัดการประชุมให้ประสบลุล่วงด้วยดี   

 ภายหลังการหารือทวิภาคี นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑) หนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น (๒) ความตกลงว่าด้วยการมอบยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศระหว่างรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ (๓) หนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความช่วยเหลือแบบให้เปล่าของรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้โครงการสนับสนุนเร่งด่วนสำหรับการรับมือกับสถานการณ์โควิด-๑๙ และต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้แถลงข่าวร่วมกันเกี่ยวกับสาระสำคัญของผลการหารือทวิภาคี โดยคำแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี ตามเอกสารแนบ และเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและคณะ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

REV-ร่างคำกล่าวแถลงข่าวร่วม_2_พ.ค._Final.pdf