การแถลงข่าวและการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส

การแถลงข่าวและการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส

วันที่นำเข้าข้อมูล 12 มี.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 13 มี.ค. 2567

| 6,677 view

เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส พร้อมด้วยนางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป ได้เข้าร่วมการกล่าวถ้อยแถลงและหารือระหว่างงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันซึ่งนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส จัดเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส

ในช่วงการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเยือนฝรั่งเศสว่าเป็นการเยือนทวิภาคีอย่างเป็นทางการประเทศแรกในยุโรปนับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไทยและฝรั่งเศสมีจุดยืนและวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศที่คล้ายคลึงกันในหลายเรื่อง เช่น การส่งเสริมประชาธิปไตย การสร้างโลกที่มีความมั่นคงและยั่งยืน และจุดยืนร่วมกันในการรักษาสันติภาพของโลก ตลอดจนเป้าหมายทางเศรษฐกิจ

ระหว่างการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การจับคู่ทางธุรกิจในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน การกระชับความร่วมมือด้านกลาโหม ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด ตลอดจนความร่วมมือด้านอากาศยานและเทคโนโลยีอวกาศ รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม 8 ด้านในภูมิภาคของไทย ซึ่งฝรั่งเศสสามารถร่วมมือกับไทยได้

สำหรับนโยบายการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) ของไทย นายกรัฐมนตรีประสงค์จะเห็นบริษัทยานยนต์ฝรั่งเศสที่ผลิตเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ไฟฟ้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และเชิญชวนให้ฝรั่งเศสมาลงทุนในระบบขนส่งในประเทศไทย พร้อมทั้งแสดงความสนใจในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของฝรั่งเศส ในด้านแฟชั่นชั้นสูงซึ่งเป็นสาขาที่ฝรั่งเศสมีความโดดเด่น ไทยประสงค์จะเห็นดีไซน์เนอร์ไทยรุ่นใหม่มีผลงานมากขึ้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรปซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มปริมาณการค้าสินค้าและบริการระหว่างไทยและฝรั่งเศส การยกเว้นวีซ่าเข้าเขตเชงเกนสำหรับหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย และการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ของไทย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ