รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เพื่อส่งเสริม "ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง” ระหว่างไทย – เวียดนามในทุกมิติ และการเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือทางโทรศัพท์กับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ในโอกาสที่นายบุ่ย แทงห์ เซิน เข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการ โดยได้หารือแนวทางการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย - เวียดนาม ทั้งในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาค และภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือในฐานะ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง” (Strengthened Strategic Partnership) ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและการหารืออย่างใกล้ชิดผ่านกลไกทวิภาคี เช่น Political Consultation Group (PCG) ในระดับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ Joint Commission on Bilateral Cooperation (JCBC) ในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ Joint Cabinet Retreat (JCR) ในระดับนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับแผนการจัดกิจกรรมเพื่อฉลองการครบรอบ ๔๕ ปี ความสัมพันธ์ไทย - เวียดนามในปีนี้ด้วย
ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้น โดยฝ่ายไทยได้ขอบคุณฝ่ายเวียดนามที่ยืนยันจะอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนไทยด้วยดีต่อไป ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทยได้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือกันในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาคอย่างใกล้ชิด รวมถึงในกรอบอาเซียน โดยฝ่ายไทยได้ชื่นชมบทบาทของเวียดนามในการเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติช่วงเดือนเมษายน ๒๕๖๔ และฝ่ายเวียดนามได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในโอกาสที่ไทยจะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี ๒๕๖๕ นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเยือนไทย ซึ่งฝ่ายเวียดนามได้ตอบรับด้วยความยินดี