รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเข้าเยี่ยมชมและตรวจราชการ ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเข้าเยี่ยมชมและตรวจราชการ ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์

วันที่นำเข้าข้อมูล 5 มี.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 มี.ค. 2568

| 1,278 view

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเข้าเยี่ยมชมและตรวจราชการ ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อรับฟังบรรยายภาพรวมการดำเนินการและกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมถึงการเยี่ยมชมฝ่ายกงสุลและสภาพความเป็นอยู่และสวัสดิภาพของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดยมีนายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีฯ ได้รับฟังภาพรวมการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทยและกาตาร์ ตลอดจนการดำเนินโครงการและกิจกรรม อาทิ การกระชับความร่วมมือด้านการต่างประเทศและความมั่นคง การส่งเสริมขีดความสามารถและโอกาสทางเศรษฐกิจ การแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่ไทยเชี่ยวชาญและตอบสนองความต้องการของกาตาร์ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ฮาลาล และการต่อยอดมูลค่าวัสดุเหลือใช้ในภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมความร่วมมือระดับประชาชน และการส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยผ่านวัฒนธรรมไทยต่าง ๆ อาทิ โครงการเสริมทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้แก่นักเรียนไทยในกาตาร์ และโครงการสอนภาษาและวัฒนธรรมไทยให้แก่เด็กและเยาวชนไทยที่อยู่อาศัยในกาตาร์ เพื่อเสริมสร้างทักษะและสร้างความตระหนักรู้ในวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการมาต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 10 ปี

นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ และคณะเข้าเยี่ยมชมฝ่ายกงสุลของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ซึ่งเพิ่งย้ายที่ทำการมายังที่ตั้งปัจจุบันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 รวมถึงการปรับปรุงฝ่ายกงสุล โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ดำเนินการตรวจลงตราแก่ชาวต่างชาติที่อาศัยในกาตาร์เพื่อเดินทางไปยังประเทศไทยมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเกือบ 15,000 ราย และในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวกาตาร์เดินทางมาไทย 43,468 คน โดยส่วนใหญ่นิยมเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว การท่องเที่ยงเชิงสุขภาพ และการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา เป็นหนึ่งในสำนักงานนำร่องในภูมิภาคตะวันออกกลางที่เปิดให้บริการระบบ E-Visa

ไทยและกาตาร์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2523 และครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์ในปี 2568 ซึ่งที่ผ่านมาสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในทุกระดับ โดยกาตาร์เป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลางและอันดับ 27 ในตลาดโลก รวมถึงมีความร่วมมือในหลายมิติ โดยเฉพาะความมั่นคงทางอาหารและการเกษตร การพัฒนาที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางพลังงาน นวัตกรรม การศึกษา และการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม นอกจากนี้ กาตาร์เป็นอันดับ 2 ของโลกที่ไทยนำเข้าและพึ่งพาพลังงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งกาตาร์มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองมากเป็นลำดับ 3 ของโลก และมีปริมาณน้ำมันมากเป็นลำดับ 14 ของโลก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากาตาร์มีบทบาทเป็นผู้ไกล่เกลี่ยและประสานงานที่สำคัญในการเจรจาเพื่อบรรลุความตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ร่วมกับอียิปต์ และสหรัฐฯ ทั้งในการหยุดยิงชั่วคราว เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 และการหยุดยิงและนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน เมื่อ 15 มกราคม 2568 รวมถึงมีบทบาทและส่วนช่วยสำคัญในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซาจนได้รับการปล่อยตัวผ่านคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) รวม 28 ราย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ