รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย หารือหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมตรวจเยี่ยมการให้บริการกงสุล ก่อนจะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ณ จังหวัดพะเยา

เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อพบหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในท้องที่และตรวจเยี่ยมการให้บริการกงสุล ก่อนเดินทางไปร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ณ จังหวัดพะเยา

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เยี่ยมชมท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนและรับฟังการบรรยายสรุป พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้แทนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าชายแดนของจังหวัดเชียงรายกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงราว ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาทในปี ๒๕๖๖ และการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งทั้งทางถนนและทางน้ำระหว่างไทยกับ สปป. ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับปัญหาหมอกควันข้ามแดนและปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปพิจารณากำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านการต่างประเทศตามแนวทางการทูตเชิงเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ต้องการให้การต่างประเทศช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและความกินดีอยู่ดีให้แก่ประชาชน

ในช่วงบ่าย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงราย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย โดยมีนางคคนางค์ อัมระนันทน์ อองลารท์ หัวหน้าสำนักงานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ โดยรัฐมนตรีช่วยฯ ได้มอบนโยบายด้านการทูตเพื่อประชาชน โดยเน้นย้ำบริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งการนำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนางานบริการ อนึ่ง สำนักงานฯ เชียงราย เป็นหนึ่งในสำนักงานนำร่องที่มีเครื่องรับคำร้องขอหนังสือเดินทางแบบบริการด้วยตนเอง (kiosk) ซึ่งประชาชนให้ความสนใจและตอบรับเครื่อง kiosk เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ เน้นย้ำบทบาทของสำนักงานฯ ในการร่วมมือกับสำนักงานจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะภารกิจด้านการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะต้องทำงานเชิงรุกในการประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ และเตือนภัยคนไทยในพื้นที่ เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์หรือกรณีถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ