สรุปการแถลงข่าวในประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล
โดยนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ
- เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์ในอิสราเอล ดังนี้
๑. พัฒนาการของสถานการณ์
- พลเรือนอิสราเอลเสียชีวิตอย่างน้อย ๗๐๐ คนบาดเจ็บอีกประมาณ ๒,๑๕๐ คน และทางการอิสราเอลได้ออกมายืนยันแล้วว่ามีผู้ถูกจับตัวไปอย่างน้อย ๑๐๐ คน ซึ่งรวมถึงคนชาติต่าง ๆ
๒. ผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่
- คนไทยเสียชีวิต ๑๒ คน ซึ่งยังรอทางการอิสราเอลยืนยันข้อมูล บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีก ๑ คน รวมเป็น ๙ คน และถูกจับเป็นตัวประกัน ๑๑ คน
๓. การดำเนินการของทางการไทย
- ที่ประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน (RRC) ได้ประชุมกันเมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. หารือกันถึงแนวทางการเตรียมการอพยพ โดยขณะนี้มีคนไทยในอิสราเอลแสดงความประสงค์ขออพยพกลับประเทศไทยแล้ว ๑,๔๓๗ คน (สถานะเมื่อ ๐๙.๐๐ น. เวลาท้องถิ่นอิสราเอล) และผู้ประสงค์จะไม่กลับจำนวน ๒๓ คน และเมื่อคืนวานนี้ (๘ ตุลาคม ๒๕๖๖) ทางการอิสราเอลได้ช่วยอพยพคนไทยบางส่วนในพื้นที่เสี่ยงมายังพื้นที่ปลอดภัย
- กองทัพอากาศและการบินไทยได้จัดเตรียมเครื่องบินและเจ้าหน้าที่ในการดำเนินภารกิจแล้ว โดย สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังจัดหาเที่ยวบินพาณิชย์เพื่อนำคนไทยออกจากประเทศก่อน เช่น ผู้บาดเจ็บที่เดินทางได้ หรือผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว โดยในเบื้องต้นคาดว่า จะจัดให้คนไทยกลุ่มแรก ๑๕ คนออกจากอิสราเอลได้วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ มีกำหนดเดินทางถึงไทยวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๖
- สำหรับตัวประกัน กระทรวงการต่างประเทศได้ขอให้ สอท. ในประเทศที่เกี่ยวข้องติดต่อกระทรวงการต่างประเทศของประเทศนั้น ๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนให้มีการปล่อยตัวพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ในการนี้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้พบกับทูตปาเลสไตน์เพื่อแจ้งความห่วงกังวลของไทย และขอให้สนับสนุนการดำเนินการเพื่อปล่อยพลเรือนที่ถูกจับกุมไป ซึ่งท่านทูตปาเลสไตน์รับจะช่วยประสานให้ต่อไป
- นักศึกษาไทยจำนวน ๘๐ คน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อันตรายและได้รับแจ้งว่า ปลอดภัยดี
- เมื่อคนไทยเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงสาธารณสุข จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น การช่วยเหลือเยียวยาทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานทั้งสองได้เดินทางไปเยี่ยมญาติของผู้ได้รับผลกระทบในภูมิลำเนาแล้ว
- เพื่อตอบสนองต่อการสอบถามเข้ามาของพี่น้องประชาชน กรมการกงสุลได้เปิดหมายเลข hotline เพิ่มเติมจาก ๓๐ คู่สายเป็น ๖๐ คู่สาย รวมถึงเพิ่มช่องทางไลน์ Openchat ชื่อห้อง “ขอรับความช่วยเหลือกรณีคนไทยในอิสราเอล” ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าร่วมได้มากที่สุด ๕,๐๐๐ คน และได้เปิด Facebook เพจเฉพาะกิจ “กรมการกงสุลห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอล” เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ และเป็นช่องทางให้พี่น้องคนไทยติดต่อสอบถามเข้ามาได้
- กระทรวงการต่างประเทศจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสนับสนุนภารกิจของ สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟภายในสัปดาห์นี้ด้วย เพื่อดูแลแรงงานไทยและช่วยเหลือภารกิจอพยพ
- ขอย้ำว่า รัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพี่น้องประชาชนไทยอย่างสูงสุด และจะพยายามดำเนินการทุกวิถีทางให้พี่น้องที่ประสงค์เดินทางกลับไทยได้เดินทางกลับมาโดยเร็วและปลอดภัย
* * * * *
กองการสื่อมวลชน
กรมสารนิเทศ