เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนาในหัวข้อ “Bridging the Next Normal: Partnerships for BCG Economy” ซึ่งกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย U.S. Trade and Development Agency (USTDA) และ U.S. International Development Finance Corporation (DFC) จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ ในรูปแบบกึ่งออนไลน์
เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ และขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว (Bio-Circular Green Economy: BCG Economy) รวมทั้งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน โดยมีนาง Gwen Cardno อุปทูตฯ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วงเปิดการสัมมนาฯ

อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้และอุปทูตฯ สหรัฐฯ ได้เน้นย้ำความสำคัญของความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ยาวนานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในหลากหลายมิติ และยินดีกับพลวัตในความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดทำแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งได้มีการลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศประสงค์ขับเคลื่อนการดำเนินการตามเอกสารสำคัญดังกล่าวเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้าน
การพัฒนา BCG Economy เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวเข้าสู่ยุค Next Normal อย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว

ในโอกาสนี้ ผู้แทน USTDA และ DFC ได้นำเสนอโอกาส กระบวนการ และประโยชน์ที่ภาคเอกชนไทยสามารถได้รับจากการดำเนินความร่วมมือกับหน่วยงานสหรัฐฯ
ในการดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาและเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เข้มแข็ง และมีความสมดุล นอกจากนี้ ผู้บริหารจากภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท EVLOMO ยังได้ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินความร่วมมือกับ USTDA และ DFC ด้วย

การสัมมนาฯ ดังกล่าว มีผู้แทนบริษัทเอกชนไทยที่ประกอบธุรกิจและมีความสนใจดำเนินโครงการความร่วมมือในสาขาที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG เข้าร่วมการสัมมนาฯ รวมทั้งผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งเป็นโอกาสหารือแนวทางการขยายความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศพร้อมส่งเสริมความร่วมมือและความเป็น
หุ้นส่วนเพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป