นายกรัฐมนตรีย้ำแนวทาง “มองไปข้างหน้า” ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเข้าถึงยาและวัคซีนต้านโควิด-๑๙ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๘

นายกรัฐมนตรีย้ำแนวทาง “มองไปข้างหน้า” ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเข้าถึงยาและวัคซีนต้านโควิด-๑๙ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๘

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 ต.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 8,683 view

นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๘ สนับสนุนแนวทาง “มองไปข้างหน้า” ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเข้าถึงยาและวัคซีนต้านโควิด-๑๙ การส่งเสริมความเชื่อมโยง และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ในฐานะปัจจัยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่กว้างขวางขึ้น

เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๘ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย เข้าร่วมการประชุมด้วย

ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับอินเดียเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูจากโควิด-๑๙ อาทิ การส่งเสริมการค้าการลงทุน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน การส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลและเศรษฐกิจภาคทะเล การพัฒนาด้านดิจิทัลและไอซีที และความมั่นคงทางไซเบอร์ รวมถึงความเชื่อมโยงในระดับประชาชน ในโอกาสนี้ ที่ประชุมได้ประกาศให้ปี ๒๕๖๕ เป็น “ปีแห่งมิตรภาพระหว่างอาเซียน-อินเดีย” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๓๐ ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดียด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยอินเดียยืนยันสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก และข้อริเริ่มมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิกของอินเดีย โดยที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-อินเดีย ว่าด้วยความร่วมมือต่อมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิกเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค เพื่อเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต

นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้อาเซียนและอินเดียร่วมกันสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้คนรุ่นหลังด้วยการ “มองไปข้างหน้า” ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันใน ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑) การเข้าถึงวัคซีนและยาต้านโควิด-๑๙ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้อาเซียนกับอินเดียร่วมกันวิจัย พัฒนา และผลิตยาและวัคซีนในภูมิภาค รวมถึงประสานความร่วมมือในการสำรองวัคซีนและเวชภัณฑ์ เพื่อสร้างขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในภูมิภาคในระยะยาว (๒) การส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการผลักดันโครงการทางหลวงสามฝ่ายอินเดีย-เมียนมา-ไทย และส่วนขยายไปยัง สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนามให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงแสวงหาโอกาสทางการค้าในสาขาใหม่ ๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์อินทรีย์ และอายุรเวท ตลอดจนการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และ (๓) การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) เป็นแนวทางในการสนับสนุนการฟื้นฟูภูมิภาคจากโควิด-๑๙ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างอาเซียนกับอินเดีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่กว้างขวางขึ้นด้วย

 

----------------

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ