เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้นำนายอับดุลมารี ฮาเซ็ม ผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปี ๒๕๖๑ (ฮ.ศ. ๑๔๓๙) ที่ล้มป่วยระหว่างการประกอบพิธีกลับประเทศไทย โดยเดินทางจากประเทศซาอุดีอาระเบียไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขได้จัดรถพยาบาลไปรับที่เครื่องบิน และเดินทางผ่านด่านอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มาถึงประเทศไทยในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยในชั้นนี้ นายอับดุลมารีได้เข้ารับการรักษาพยาบาลต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ นางนิขามือเสาะ หะยีนิเย๊ะ ภรรยา และนายแพทย์ Faisal Ahmed M Alzahrani ตำแหน่ง Doctor Geriatric Resident โรงพยาบาล King Fahad เมืองเจดดาห์ ได้ร่วมเดินทางมากับผู้ป่วยด้วย
นายอับดุลมารีได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อปี ๒๕๖๑ โดยเมื่อเดินทางถึงเมืองมักกะห์เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ เกิดอาการป่วยและได้เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล Anur เมืองมักกะห์ และต่อมาได้ย้ายมารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล King Fahad เมืองเจดดาห์ แต่เนื่องจากที่ผ่านมา นายอับดุลมารียังไม่อยู่ในสภาพที่สามารถเคลื่อนย้ายกลับมายังประเทศไทยได้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ จึงให้การดูแล ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทางของภรรยาเพื่อไปเยี่ยมอาการ
ทั้งนี้ ในการเคลื่อนย้ายนายอับดุลมารีครั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้รับผิดชอบค่าเดินทางของนายแพทย์ Faisal Ahmed M Alzahrani จากประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวจังหวัดยะลา ได้ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางมาเลเซียเพื่ออำนวยความสะดวก
ในการเดินทางกลับประเทศไทยของผู้ป่วยการให้ความช่วยเหลือนายอับดุลมารีครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายกระทรวงการต่างประเทศที่ให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกให้การดูแลและช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ