เมื่อวันที่ ๑ – ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ทางการไทยและเมียนมาได้ร่วมมือกันส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา กลุ่มที่ ๔ จากพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ในจังหวัดตาก (บ้านแม่หละ บ้านนุโพ และบ้านอุ้มเปี้ยม) จังหวัดแม่ฮ่องสอน (บ้านใหม่ในสอยและบ้านแม่ละอูน) และจังหวัดราชบุรี (บ้านถ้ำหิน) รวมทั้งสิ้น ๓๑๐ คน ผ่านจุดผ่านแดนถาวรแม่สอด – เมียวดี จังหวัดตาก จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจุดผ่านแดนถาวรพุน้ำร้อน – ทิกิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees – UNHCR) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration – IOM) ได้ร่วมสนับสนุนการส่งกลับ
รัฐบาลไทยได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้หนีภัยฯ มาตั้งแต่ปี ๒๕๒๗ ปัจจุบันยังมีผู้หนีภัยฯ ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงฯ ๙ แห่ง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี เพื่อรอการเดินทางกลับเมียนมาเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย การส่งกลับครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลทั้งสองประเทศ โดยมีคณะทำงานร่วมไทย – เมียนมา ในการเตรียมการส่งผู้หนีภัยฯ กลับประเทศ ซึ่งมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยและเมียนมาเป็นประธานร่วม เป็นกลไกขับเคลื่อนหลัก ที่ผ่านมาได้จัดประชุมแล้ว ๓ ครั้ง และที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบที่จะส่งผู้หนีภัยฯ กลับเมียนมาอย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง ในช่วงก่อนและหลังฤดูฝน ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้หนีภัยฯ เดินทางกลับโดยสมัครใจแล้ว ๓ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ ๑ จำนวน ๗๑ คน เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ กลุ่มที่ ๒ จำนวน ๙๓ คน เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑ และกลุ่มที่ ๓ จำนวน ๕๖๕ คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ทำให้จนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้หนีภัยฯ เดินทางกลับเมียนมาแล้วทั้งสิ้น ๔ กลุ่ม เป็นจำนวน ๑,๐๓๙ คน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับบนพื้นฐานของความสมัครใจ ความปลอดภัย การมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และอย่างยั่งยืนต่อไป