เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา พร้อมด้วยคณะ ได้เข้าพบหารือกับ ดร. Sukadiono อธิการบดีมหาวิทยาลัย Muhammadiyah สุราบายา (UMSurabaya) ซึ่งมีนักศึกษาไทยศึกษาอยู่ ๔๖ คน

เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณมหาวิทยาลัยฯ ที่ดูแลนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี และย้ำความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาไทยมาเรียนที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นต้นแบบประเทศมุสลิมสายกลางให้มากขึ้นเป็นลำดับต้นต่อไป โดยไม่ประสงค์จะให้นักศึกษาไทยได้รับแนวคิดหัวรุนแรง (radicalism) หรือลัทธิแบ่งแยกดินแดน (separatism) ทั้งนี้ ปัจจุบันอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีนักเรียน/นักศึกษาไทยมุสลิมมาศึกษามากที่สุดเป็นอันดับ ๒ ของโลก (ประมาณ ๒,๐๐๐ คน) ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณองค์กรศาสนา Muhammadiyah และมหาวิทยาลัยฯ ที่ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยมาโดยตลอดด้วย

เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดโครงการกระชับมิตร (รวมตัวนักเรียน/นักศึกษาไทยในอินโดนีเซีย) ที่เมืองสุราบายาในเดือนกันยายน ๒๕๖๒ โดยคาดว่า จะมีนักเรียนและนักศึกษาไทยเข้าร่วมกว่า ๔๐๐ – ๕๐๐ คน ซึ่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ พร้อมให้การสนับสนุน

นอกจากนี้ สองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ระหว่าง UMSurabaya กับมหาวิทยาลัยในไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยเอกอัครราชทูตฯ ย้ำว่า การแลกเปลี่ยนนักศึกษาเป็นการ“บ่มเพาะ”ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทย – อินโดนีเซียตั้งแต่เยาวชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย – อินโดนีเซียทั้งในปัจจุบันและอนาคตเมื่อเติบใหญ่แล้ว

สองฝ่ายยังได้หารือแนวทางการสร้างเสริมความร่วมมือระหว่าง UMSurabaya กับมหาวิทยาลัยในไทย โดยในปัจจุบัน UMSurabaya มีความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับเพียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยต้องการที่จะรื้อฟื้นบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาขอนแก่น และเริ่มความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ของไทย รวมทั้งขอให้ไทยพิจารณาสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นด้วย

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้เชิญชวน UMSurabaya ร่วมกับไทยและรัฐบาลอินโดนีเซีย จัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่าง UMSurabaya กับมหาวิทยาลัยของไทยเพื่อฉลองการครบรอบ ๗๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – อินโดนีเซียในปี ๒๕๖๓ ด้วย