เมื่อวันที่ ๗ - ๘ มีนาคม ๒๕๖๒ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนเมียนมา ทั้งในนามประเทศไทยและในฐานะประธานอาเซียน เพื่อสานต่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศและแสวงลู่ทางที่ประเทศไทยและอาเซียนจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือเมียนมาคลี่คลายสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ระหว่างการเยือนได้หารือข้อราชการกับนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ นายจ่อ ติ้น ส่วย รัฐมนตรีประจำสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐ นายตอง ทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศและนายจ่อ ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยได้แสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเมียนมาในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะในการส่งกลับผู้พลัดถิ่นจากฝั่งบังกลาเทศกลับรัฐยะไข่ การส่งเสริมความสมานฉันท์ของชุมชนและการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
ในการหารือต่าง ๆ ดังกล่าว ฝ่ายเมียนมาได้แสดงความชื่นชมและเชื่อมั่นในบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและในฐานะประธานอาเซียน โดยฝ่ายเมียนมาสนับสนุนการส่งทีมของศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management - AHA Centre) เข้าไปสำรวจและประเมินข้อที่จะต้องดำเนินการเพื่อรองรับการส่งกลับของผู้พลัดถิ่น และพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนในขั้นตอนการส่งกลับ ระหว่างวันที่ ๔ - ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ฝ่ายเมียนมาตั้งใจรับผู้ผลัดถิ่นกลับสู่เมียนมา โดยได้ปรับกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เกิดผลที่ชัดเจนขึ้นในทางปฏิบัติ จึงหวังว่าการเจรจากับบังกลาเทศจะได้ข้อยุติโดยเร็ว และฝ่ายเมียนมาหวังว่า ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนจะช่วยประสานกับประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การเจรจาระหว่างเมียนมากับบังกลาเทศได้ข้อยุติในโอกาสแรกด้วยความร่วมมือใกล้ชิดจากบังกลาเทศ
นอกจากนี้ เมียนมาเห็นพ้องกับไทยว่า เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จะต้องมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และให้ชุมชนต่าง ๆ ในรัฐยะไข่ได้รับประโยชน์อย่างเสมอหน้า นอกจากนั้น ยังได้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะส่งเสริมการลงทุนของเอกชนในรัฐยะไข่ด้วย
ฝ่ายเมียนมาขอบคุณประเทศไทยที่สนับสนุนเมียนมามาโดยตลอดเรื่องสถานการณ์รัฐยะไข่ ทั้งการบริจาคเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์โดยครอบคลุมด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานและการดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนา อาทิ การจัดตั้งศูนย์พัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนที่เมืองซิตต่วยและเมืองจ้าวก์ตอในรัฐยะไข่ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งฝ่ายเมียนมาอนุญาตให้คณะผู้เชี่ยวชาญของไทยเดินทางไปสำรวจพื้นที่เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๒ การให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่แก่ชาวยะไข่และผู้พลัดถิ่นภายในประเทศชาวมุสลิมในพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่เมืองซิตต่วย รัฐยะไข่ ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน - ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ และครั้งต่อไปมีกำหนดในช่วงกลางเดือนมีนาคม ๒๕๖๒
นอกจากนี้ ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการดำเนินการในระยะต่อไปในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีไทย - เมียนมาในหลายประเด็น อาทิ การลงทุนของไทยในเมียนมา ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การส่งกลับผู้หนีภัยการสู้รบ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเมียนมา และโครงการความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงระหว่างกัน