วันที่นำเข้าข้อมูล 6 มี.ค. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณมหาวิทยาลัยฯ ที่ดูแลนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี และชื่นชมการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซียที่เน้นแนวทางอิสลามสายกลาง (Moderate Islam) โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีนักศึกษาไทยมุสลิมมาศึกษามากที่สุดเป็นอันดับ ๒ ของโลก (ประมาณ ๒,๐๐๐ คน) และแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนมหาวิทยาลัยฯ ในการขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทย (อาทิ ความร่วมมือด้านการวิจัยฮาลาล และระดับภาควิชาการ) การจัดเทศกาลไทย (Thai Festival) ของมหาวิทยาลัยฯ รวมทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิจัยและนักศึกษากับมหาวิทยาลัยในไทย การสอนภาษาไทยในอินโดนีเซียและการสอนภาษาอินโดนีเซียในไทย การศึกษาวิจัยร่วมกัน ความร่วมมือในการรับประกันคุณภาพการศึกษา (Quality Assurance) การเทียบวุฒิการศึกษาและการปรับหลักสูตรการศึกษาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้รับเชิญโดยอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ ให้เป็นผู้บรรยายพิเศษในหัวข้อ "ความสัมพันธ์ไทย - อินโดนีเซีย และความร่วมมือด้านการศึกษา" โดยมีนักศึกษาอินโดนีเซียและนักศึกษาต่างชาติที่มหาวิทยาลัยฯ เข้าร่วมกว่า ๒๐๐ คน (รวมทั้งนักศึกษาไทยประมาณ ๓๐ คน) โดยเอกอัครราชทูตฯ เน้นย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างไทย - อินโดนีเซียได้ รวมทั้งในด้านการศึกษา และเน้นย้ำว่า นักศึกษาไทยและนักศึกษาอินโดนีเซียต่างเป็น"อนาคตของประเทศและเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - อินโดนีเซีย" และทุกคนเป็น"ทูต" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - อินโดนีเซีย ทั้งนี้ มีอาจารย์และนักศึกษาอินโดนีเซียจำนวนมากสนใจที่จะไปศึกษาและแสวงหาความร่วมมือกับไทย
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้นักศึกษาติดตามข่าวสารของสถานเอกอัครราชทูตฯ และลงทะเบียนออนไลน์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยเน้นย้ำความสำคัญของข้อมูลนักศึกษาในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติในอินโดนีเซียอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และขอให้สมาคมนักศึกษาไทยเมืองยอกยาการ์ตาเป็นจุดติดต่อประสานงานเบื้องต้นของนักเรียน/นักศึกษาไทยในเมืองยอกยาการ์ตาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย รวมทั้งได้แจ้งนักศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรให้นักศึกษาได้ทราบ
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เยี่ยมเยียนบ้านสมาคมนักศึกษาไทย ๒ หลัง ("บ้าน นศ.ชายและบ้าน นศ.หญิง") ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สนับสนุนค่าเช่าบ้านอย่างต่อเนื่องทุกปี และได้มอบ"กระเป๋าเป้ฉุกเฉิน" ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดทำขึ้นเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินในอินโดนีเซีย และอาหารแห้งให้กับนักศึกษาด้วย โดยมีนักศึกษามาพบปะเอกอัครราชทูตฯ และคณะกว่า ๕๐ คน ซึ่งขอบคุณที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ห่วงใยและดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างดีมาโดยตลอด
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่คณะกรรมสมาคมนักศึกษาไทยเมืองยอกยาการ์ตาจำนวน ๑๕ คนด้วย
เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณที่มหาวิทยาลัยฯ ดูแลนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี โดยสนับสนุนให้นักศึกษาไทยมาเรียนที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมสายกลาง โดยไม่ประสงค์จะให้นักศึกษาไทย expose กับ radicalization และ separatism ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีนักเรียน/นักศึกษาไทยมาศึกษามากที่สุดเป็นอันดับ ๒ ของโลก (ประมาณ ๒,๐๐๐ คน) และเมืองยอกยาการ์ตามีนักเรียน/นักศึกษาไทยมากเป็นอันดับต้นของอินโดนีเซีย (ประมาณ ๓๐๐ คน) และขอบคุณองค์กรศาสนา Muhammadiyah และมหาวิทยาลัยฯ ที่ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยมาโดยตลอด
มหาวิทยาลัยฯ ยินดีที่มีนักศึกษาไทยเป็นนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากที่สุดของมหาวิทยาลัย (ร้อยละ ๔๐) และประสงค์จะส่งอาจารย์และนักศึกษาอินโดนีเซียไปศึกษาที่ไทยมากขึ้น โดยขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น และขอให้มหาวิทยาลัยในไทยพิจารณาจัดการสอนภาษาไทยให้นักศึกษา/อาจารย์ที่ไปศึกษา/วิจัยที่ไทยด้วย ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฯ ในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย UMY กับรัฐบาลไทยและมหาวิทยาลัยในไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในไทยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซียอย่างน้อย ๑๑๑ แห่ง
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซียที่เน้นแนวทางอิสลามสายกลาง (Moderate Islam) ความร่วมมือในการรับประกันคุณภาพการศึกษา (Quality Assurance) การเทียบวุฒิการศึกษาและการปรับหลักสูตรการศึกษาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาสามารถใช้วิชาความรู้กลับไปทำงานในประเทศของตนได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เอกอัครราชทูตฯ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดหลักสูตรการศึกษา International Tropical Farming Summer School ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๙ ตามคำเชิญของอธิการบดีมหาวิทยาลัย UMY ซึ่งมีนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้าร่วม ๒ คน และนักศึกษาไทยเข้าร่วมพิธีเปิดฯ ๒๕ คน โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ความว่า การจัดหลักสูตรฯ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของอินโดนีเซีย ไทยและประเทศต่าง ๆ ที่จะบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ ปี ค.ศ. ๒๐๓๐ และได้กล่าวถึงการพัฒนาการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ (New Theory) ในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) และได้กล่าวถึงบทบาทของ TICA ในการให้ทุนฝึกอบรมประจำปีตามหลัก SEP การให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท และการจัดโครงการฝึกอบรมให้แก่ประเทศต่างๆ ซึ่งอินโดนีเซียสามารถใช้ประโยชน์จากกิจกรรมเหล่านี้ได้
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ย้ำว่า นักศึกษาไทยและนักศึกษาอินโดนีเซียต่างเป็น"อนาคตของประเทศและเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ" และทุกคนล้วนทำหน้าที่เป็น "ทูต" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - อินโดนีเซียทั้งในปัจจุบันและอนาคต
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **