สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน เป็นเจ้าภาพจัดการเข้าร่วมงาน International Green Week (IGW) ในนามประเทศไทยเป็นประจำทุกปี และได้เข้าร่วมงานติดต่อกันเป็นปีที่ ๕ ในปีนี้ งาน IGW ๒๐๑๙ มีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘-๒๗ มกราคม ๒๕๖๒ ที่ Messe Berlin กรุงเบอร์ลิน โดยมีหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร รวมทั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โครงการในพระราชดำริ ได้แก่ ร้านภูฟ้า และโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ตลอดจนผู้ประกอบการไทย ร้านอาหารไทย และร้านนวดไทย เข้าร่วมออกร้านในคูหาประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Thailand: Happy Green Market”

            โดยเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๒ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดพิธีเปิดคูหาประเทศไทยในงาน IGW ๒๐๑๙ โดยได้รับเกียรติจาก Professor Dr. Joachim von Braun ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจชีวภาพแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Chairman of the Bioeconomy Council) เป็นแขกเกียรติยศฝ่ายเยอรมัน กล่าวเปิดงานร่วมกับนายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน

           ในพิธีเปิด เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งเป็นประเด็นหลักของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มุ่งส่งเสริมความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยไทยกับเยอรมนีมีความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสาขาต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจชีวภาพ การประมงอย่างยั่งยืน ตลอดจนความร่วมมือไตรภาคีในการร่วมกันให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศที่สาม ซึ่งไทยกับเยอรมนีจะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาเหล่านี้ ในห้วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน และเยอรมนีเป็นหุ้นส่วนด้านการพัฒนาของอาเซียนต่อไป นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตสินค้าอาหารและผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูง มีมูลค่าเพิ่ม สะอาด และยั่งยืน

           Professor Dr. Joachim von Braun กล่าวถึงความสำคัญของเศรษฐกิจชีวภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้สามารถรักษาทรัพยากรและสร้างความยั่งยืนในการผลิตอาหารสำหรับประชากรโลกรุ่นต่อไป และได้กล่าวชื่นชมไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งไทยมีบทบาทที่โดดเด่นในฐานะผู้นำของเอเชียในด้านเศรษฐกิจชีวภาพ  โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยได้เข้าร่วมและเป็นผู้ร่วมอภิปรายในการประชุม Global Bioeconomy Summit ครั้งที่ ๒ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๑ ที่กรุงเบอร์ลิน รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมในสาขาต่างๆ อาทิ อาหาร และสุขภาพ ซึ่งสถาบันการศึกษาและนักวิจัยของไทยกับเยอรมนีสามารถส่งเสริมความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรมในสาขาดังกล่าวต่อไปได้

          ในพิธีเปิดคูหาประเทศไทย มีผู้เข้าร่วมจากภาคส่วนต่างๆ กว่า ๕๐ คน ได้แก่ หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย เอกอัครราชทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและจากสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ในกรุงเบอร์ลิน หน่วยงานภาครัฐ ส.ส. ระดับสหพันธ์ นายกเทศมนตรีเขต Charlottenburg-Wilmersdorf ของกรุงเบอร์ลิน กลุ่ม Friends of Thailand และนักธุรกิจเยอรมัน ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้นำแขกเกียรติยศและแขกที่เข้าร่วมงานเดินชมคูหาประเทศไทย ซึ่งในปีนี้ นอกจากจะมีการนำเสนอสินค้าและผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยม อาทิ ข้าวหอมมะลิพันธุ์ต่างๆ กาแฟ กล้วยนานาพันธุ์ มะม่วง มะพร้าว ขนุน ถั่วและผลไม้อบแห้งต่างๆ แล้ว ยังมีการนำนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ อาทิ จิ้งหรีดอบแห้งและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากจิ้งหรีด ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ เห็ดแครงอบแห้งพร้อมรับประทาน และสะตออบแห้งที่ยังคงรสชาดและกลิ่นของสะตอสด มาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองชิมอีกด้วย

          ในช่วงระหว่างงาน IGW ๒๐๑๙ ได้มีการจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทย สาธิตการปลอกผลไม้ เช่น มะม่วง และสาธิตการนวดไทยแบบต่างๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรต่างๆ ที่คูหาประเทศไทย ซึ่งมีชาวเยอรมันที่เข้าชมงาน IGW ให้ความสนใจเข้าร่วมชมการสาธิตและร่วมในกิจกรรมโดยตลอด