เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑ ณ โรงแรม ITC Sonar เมืองกัลกัตตา โดยมีนางสาวสวียา สันติพิทักษ์ กงสุลใหญ่
ณ เมืองกัลกัตตา เป็นประธานฝ่ายไทย และมี Mrs. Vandana Yadav, IAS, Managing Director, West Bengal Industrial Development Corporation เป็นแขกเกียรติยฝ่ายอินเดีย ทั้งนี้ มีผู้แทนจากคณะกงสุล หน่วยงาน ทีมประเทศไทย ภาครัฐบาลและภาคเอกชนของอินเดีย ตลอดจนชุมชนคนไทยและนักเรียนนักศึกษาไทย เข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ คน
ในงานดังกล่าว ประธานได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน ซึ่งได้ทรงอุทิศพระองค์ในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย แนวพระราชดำริของพระองค์ในการแก้ไขปัญหาความอุดมสมบูรณ์ของดินและการพัฒนาเกษตรกรรม ตลอดจนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ ๕ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก (World Soil Day) เพื่อรำลึกถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ในด้านการพัฒนาดิน รวมทั้งเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสําคัญของทรัพยากรดินต่อมิติการพัฒนาด้านการเกษตร โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ในระดับเวทีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงสานต่อพระราชปณิธานของพระราชบิดาเพื่อพัฒนาและยกระดับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยผ่านโครงการในพระราชดำริต่อไป
นอกจากนี้ ประธานยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ ไทย-อินเดีย ในด้านต่าง ๆ ซึ่งปี ๒๕๖๑ นับได้ว่าเป็นปีเริ่มต้นทศวรรษที่ ๘ นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ โดยไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกด้าน มีการเยือนระดับสูงบ่อยครั้ง โดยล่าสุด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเยือนกรุงนิวเดลี รัฐมณีปุระ และรัฐตริปุระในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ ในการนี้ ประธานแสดงความขอบคุณรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นอินเดียที่ให้การต้อนรับคณะเยือนทุกระดับของไทยด้วยดีตลอดมา ส่วนในด้านความสัมพันธ์ในภาคประชาชน แสดงความยินดีชาวอินเดียที่ชื่นชอบและเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากขึ้นทุกปี โดยรัฐบาลไทยได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในหมู่ชาวอินเดียโดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจลงตราประเภท Visa on Arrival จนถึงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ และได้นำเสนอโครงการ
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor – EEC) ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก และจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยทั้งทางบกและทางเรือ
ในกรอบพหุภาคี ไทยและอินเดียมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรอบอาเซียน ซึ่งไทยจะเข้ารับหน้าที่ประธานอาเซียนในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ในการนี้ ไทยมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนภายใต้หัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน” (“Advancing Partnership for Sustainability”) และเชื่อมั่นว่า การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี ๒๕๖๒ และการทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านความสัมพันธ์คู่เจรจา อาเซียน-อินเดีย ของไทยระหว่างปี ๒๕๖๑-๒๕๖๔ จะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและยั่งยืนระหว่างภูมิภาคเอเชียใต้และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สืบไป
ประธานกล่าวเชิญแขกเกียรติยศและแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และอำนวยพรแด่นายราม นาถ โกวินท์ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย รวมถึงเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ในงานเลี้ยงรับรองฯ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้นำเสนออาหารไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในหมู่ชาวอินเดีย (โดยการควบคุมของเชฟอาหารไทยของโรงแรมฯ) ได้แก่ ต้มข่าผัก เต้าหู้ทอด ทอดมันปลา ผัดไทยกุ้งสด ข้าวผัดสัปปะรด ส้มตำไก่ย่าง แกงเขียวหวานผัก ปลากระเพรา กุ้งกระเทียม แกงเขียวหวานไก่ ขนมกล้วย นอกจากนี้ แม่ครัวของกงสุลใหญ่ฯ ได้นำเสนอข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด และขนมลูกชุบ เพิ่มเติมให้แก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย
นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดแสดงคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ประเทศไทย และได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการบินไทยประจำเมืองกัลกัตตาอนุเคราะห์ดอกกล้วยไม้ติดเสื้อแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย