หอการค้าฯ สถานกงสุลใหญ่ฯ ไทยเทรด และร้านอาหารไทย หารือตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงานสัมพันธ์และแก้ไขปัญหาแรงงานร้านอาหารไทย

หอการค้าฯ สถานกงสุลใหญ่ฯ ไทยเทรด และร้านอาหารไทย หารือตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงานสัมพันธ์และแก้ไขปัญหาแรงงานร้านอาหารไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 8 พ.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 455 view

          เมื่อวันที่ ๕ พ.ย. ๒๕๖๑ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย จัดการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาของร้านอาหารไทย ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ โดยมีกงสุลใหญ่ฯ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ประธานหอการค้าฯ ทนายความที่ปรึกษาหอการค้าฯ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้มีประสบการณ์ เข้าร่วม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

๑. ปัญหาของร้านอาหารไทยในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย :

๑.๑ ข้อพิพาทต่าง ๆ ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหานายจ้างค้างจ่ายค่าแรงลูกจ้าง ซึ่งถึงแม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก และสถานกงสุลใหญ่ฯ ช่วยไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้ ลูกจ้างจึงอาจฟ้องร้องดำเนินคดีกันต่อไป (คดีมีอายุความ ๓ ปี)
๑.๒ จากมุมมองของนายจ้าง ปัญหาที่สำคัญ ได้แก่ ๑) นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายภาษีของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เกรงใจลูกจ้าง หรือไม่รู้กฎหมาย ๒) ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะพ่อครัวแม่ครัวไทย และ ๓) ร้านอาหารไทยในนครลอสแอนเจลิสส่วนใหญ่แข่งขันกันตั้งราคาอาหารต่ำเกินไป ทำให้ได้กำไรน้อยหรือขาดทุน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายและการแข่งขันสูง ทำให้แย่งลูกค้ากันเอง และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่าย เช่น ภาษี
๑.๓ จากมุมมองของลูกจ้าง ปัญหาที่สำคัญ คือ การที่นายจ้างค้างจ่ายค่าแรงเป็นเวลานาน ทำให้ลูกจ้างไม่มีเงินจ่ายค่าที่พัก ค่ากินอยู่ และส่งเสียทางบ้าน จึงต้องมาร้องเรียนกับสถานกงสุลใหญ่ฯ และองค์กรเอกชนต่าง ๆ ลูกจ้างบางรายที่มีข้อพิพาทกับนายจ้างมักไม่กล้าลาออกจากงาน เพราะถูกข่มขู่หรือโน้มน้าวไม่ให้ร้านอาหารไทยร้านอื่น รับลูกจ้างเข้าทำงานอีก

๒. แนวทางแก้ไขปัญหาร้านอาหารไทยในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย : การแก้ไขปัญหาร้านอาหารไทยต้องใช้หลายวิธีควบคู่กันไป โดยควรผลักดันเรื่อง

๒.๑ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงานสัมพันธ์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการ ๑) จับคู่ความต้องการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง (แบ่งตามพื้นที่/เมือง) โดยอาจทำเป็นเว็บไซต์ เฟสบุคเพจ หรือแอพพลิเคชั่น ซึ่งหอการค้าฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ จะหารือในรายละเอียดกันต่อไปเรื่องรูปแบบและการบริหารจัดการ และ ๒) ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจร้านอาหาร (และธุรกิจอื่น ๆ ในอนาคต)
๒.๒ การส่งเสริม/แนะนำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (compliance) ที่สำคัญอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเน้นเรื่องการจ้างงานและภาษี
๒.๓ การประสานงานการปรับขึ้นราคาอาหารไทย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกร้าน เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้โดยไม่ต้องทำผิดกฎหมาย
๒.๔ การผลักดันให้ทางการสหรัฐฯ ปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วยการตรวจลงตรา เพื่อให้พ่อครัวแม่ครัวจากประเทศไทยเดินทางมาทำงานในสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น (อาทิ ข้อเสนอของผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ เรื่องการตรวจลงตราประเภท J-1 Exchange Visitor Program เพื่อนำนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ ๓ สาขาคหกรรมศาสตร์ มาฝึกงานเป็นพ่อครัวแม่ครัวในร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ เป็นเวลา ๑ ปี เป็นต้น ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ และสำนักงานฯ จะเสนอหน่วยงานฝ่ายไทยพิจารณายกขึ้นหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ ต่อไป)
๒.๕ การเสริมสร้างความร่วมมือกับ California Restaurant Association (CRA) เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับภาครัฐของสหรัฐฯ โดยอาจเชิญ CRA เข้าร่วมการสัมมนาและกำหนดแนวทางความร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น หอการค้าฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ

๓. การเตรียมการจัดสัมมนาและประชุมกฎหมายแรงงานเพื่อธุรกิจร้านอาหารไทย : หอการค้าฯ จะร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ฯ จัดการสัมมนาและประชุมกฎหมายแรงงานเพื่อธุรกิจร้านอาหารไทย ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๖๑ ในวันอังคารที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ที่ห้องประชุม Hollyview Apartments ไทยทาวน์ นครลอสแอนเจลิส (รอยืนยัน) โดยจะแบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ ๑) การสัมมนาในหัวข้อ การให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายสุขภาพ แรงงาน และภาษี โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และ ๒) การประชุมหารือระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหารไทย เพื่อตอบคำถาม แลกเปลี่ยนประสบการณ์/แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ และหารือเรื่องการปรับขึ้นราคาอาหารไทยร่วมกัน

สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอรับสมัครจิตอาสาเพื่อช่วยงานแก้ไขปัญหาร้านอาหารไทยและการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงานสัมพันธ์ ผู้สนใจแจ้งความประสงค์ได้ที่นางสุทธิดา ทองดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจ โทร. (๓๒๓) ๙๖๒ – ๙๕๗๔ ต่อ ๒๐๘ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ