สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู จัดโครงการอบรมธรรมะ “ใช้ธรรมนำทาง” สำหรับชุมชนไทยในนครเฉิงตูและมณฑลในเขตอาณา ประจำปี ๒๕๖๒ ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู จัดโครงการอบรมธรรมะ “ใช้ธรรมนำทาง” สำหรับชุมชนไทยในนครเฉิงตูและมณฑลในเขตอาณา ประจำปี ๒๕๖๒ ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู

วันที่นำเข้าข้อมูล 2 พ.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 พ.ย. 2565

| 620 view

          เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ เวลา ๗.๓๐ – ๑๓.๐๐ น. สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้จัดโครงการอบรมธรรมะ “ใช้ธรรมนำทาง” สำหรับชุมชนไทยในนครเฉิงตูและมณฑลในเขตอาณา ประจำปี ๒๕๖๒ ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู โดยมี นายวิทิต เภาวัฒนาสุข กงสุลใหญ่ เป็นประธานในพิธี    พร้อมด้วยข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ รวมทั้งชุมชนชาวไทย และมวลมิตรชาวจีนใน นครเฉิงตูและมณฑลในอาณา เข้าร่วมประมาณ ๗๐ คน ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้นิมนต์ พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ แห่งสถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี จังหวัดนครราชสีมา มาแสดงธรรมเทศนาและสอนการปฏิบัติธรรม
          ในช่วงเวลา ๐๗.๓๐ น. กงสุลใหญ่ นำคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และชาวไทยบางส่วน ทำบุญตักบาตร บริเวณหน้าบ้านพัก และถวายภัตตาหารแด่พระอาจารย์ ต่อมาในเวลา ๐๙.๐๐ น. ชุมชนชาวไทยและผู้เข้าร่วมงานได้มาพร้อมเพรียงกัน ณ ห้องบรรยายธรรม กงสุลใหญ่ ได้จุดเทียนเพื่อนมัสการพระรัตนตรัย กราบนมัสการ พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ และกล่าวต้อนรับชุมชนไทย จากนั้นได้เริ่มดำเนินกิจกรรมอบรมธรรมะ “ใช้ธรรมนำทาง” ซึ่งหลักธรรมสำคัญที่ได้จากการรับฟังการบรรยายธรรม ได้แก่ การอยู่กับปัจจุบัน การรักษาศีล ๕ ให้บริบูรณ์เพื่อเป็นรากฐานแห่งสติและปัญญา รวมไปถึง การมองตนและเพียรแก้ไขตนโดยเฉพาะการรู้เท่าทันกิเลสและข้อบกพร่องในใจตน โดยเฉพาะในการทำงาน การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันเนื่องจากความคาดหวังซึ่งกันและกัน ซึ่ง สังคหวัตถุ ๔ เป็นหลักธรรมที่ควรใช้เป็นเครื่องยึดและหลักธรรมที่ทำให้เป็นที่รัก โดยเฉพาะการ ให้อภัยซึ่งกันและกันจะนำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมัครสมานสามัคคีปรองดอง
          หลังจากนั้น พระอาจารย์ฯ สอนการปฏิบัติภาวนาแบบนั่ง (นั่งสมาธิ) เป็นเวลา ๑๕ นาที โดยใช้การสังเกตและรับรู้ลมหายใจเป็นเครื่องอยู่ (หายใจเข้า – รู้ หายใจออก – รู้) เพื่อไม่ให้ลืมกาย และนำไปสู่การมีสติ และสั่งสมปัญญาที่เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถมีสติและรู้เท่าทันทุกข์ หรือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในใจตนได้ ซึ่งการมีสติจะช่วยให้เกิดการรู้ตัวทั่วพร้อมและป้องกันตนเองในการที่จะพูดหรือกระทำใดใดที่อาจจะนำไปสู่การผิดศีลธรรม และผิดกฎหมายได้ และในช่วงสุดท้ายของการอบรมธรรมะ ได้เปิดให้มีการถาม-ตอบ ปัญหาทางธรรม หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม กงสุลใหญ่ฯ เชิญผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ