เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุม Political Consultation ไทย - โปแลนด์ ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ ตามคำเชิญของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ในระหว่างการเยือนไทยเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๑

          ในระหว่างการประชุมฯ ฝ่ายโปแลนด์กล่าวว่า ได้ดำเนินนโยบายกับไทยโดยมุ่งเน้นผลลัพธ์เป็นหลักและจะส่งเสริมความร่วมมือกับไทยในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งได้สนับสนุนให้สหภาพยุโรปยกเลิกข้อมติกับไทย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญครบ ๑๐ ฉบับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว โดยเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับครบ ก็จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายใน ๑๕๐ วัน ทั้งนี้ คาดว่าจะอยู่ระหว่างวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม ๒๕๖๒ นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไทยและโปแลนด์มีความคล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ด้าน จนอาจกล่าวได้ว่าเป็น twin brothers โดยสองประเทศเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์ของภูมิภาค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการใหม่ ๆ ในประเทศไทยและเชิญชวนให้โปแลนด์มาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ในสาขาที่โปแลนด์มีความเชี่ยวชาญ อาทิ ยานยนต์ เกษตรกรรม และเทคโนโลยีอาหาร 

          ฝ่ายโปแลนด์ยินดีที่มูลค่าการส่งออกของโปแลนด์มาไทยในปี ๒๕๖๐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๐ อย่างไรก็ดี ฝ่ายโปแลนด์ยังขาดดุลการค้ากับไทย จึงประสงค์จะส่งออกสินค้า อาทิ สินค้าเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ เคมีอุตสาหกรรม ปุ๋ยเคมี ICT และอัญมณี (อำพัน) เพิ่มมากขึ้น และเชิญชวนฝ่ายไทยเข้าร่วมงาน European Economic Congress ที่เมือง Katowice ซึ่งโปแลนด์เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นทุกปี และ Food Trade Fair ที่สำคัญในโปแลนด์ นอกจากนี้ ฝ่ายโปแลนด์เสนอให้มีโครงการความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ระหว่างสถาบันวิจัยของโปแลนด์กับสถาบันการศึกษาที่สนใจของไทย รวมทั้งส่งเสริมให้นักศึกษาไทยไปศึกษาด้านการแพทย์ที่โปแลนด์เพิ่มมากขึ้น

          ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือด้านการเกษตร อาทิ การส่งออกแอปเปิ้ล ลูกไก่และไข่ฟัก เนื้อสุกร และโปรตีนสัตว์แปรรูปประเภทที่ ๓ การขอเปิดเที่ยวบินตรงเส้นทางกรุงวอร์ซอ-กรุงเทพฯ และกรุงวอร์ซอ-ภูเก็ต ของสายการบินของโปแลนด์ การเสนอให้โปแลนด์นำเข้ายางพาราจากไทยเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโปแลนด์เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการแลกเสียงในกรอบองค์การระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวไทย-โปแลนด์ในการพบกันในโอกาสแรกต่อไป

          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงบทบาทของการเป็นสะพานเชื่อมในภูมิภาคและอนุภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ BIMSTEC IORA และ APEC การเป็นประธานอาเซียนในปีหน้าของไทย และได้เชิญชวนให้โปแลนด์เข้ามาเป็นประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาใน ACMECS (ACMECS Development Partner) ในสาขา Digital Connectivity ในโครงการเพื่อการพัฒนาหรือสาขาอื่น ๆ ที่โปแลนด์เชี่ยวชาญและมีความสนใจ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในภูมิภาค อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความท้าทายภายหลัง Brexit บทบาทของมหาอำนาจในภูมิภาค สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ คาบสมุทรเกาหลี และสถานการณ์ในรัฐยะไข่

          การประชุม Political Consultation ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นการปูทางไปสู่การจัดการประชุมหารือทางยุทธศาสตร์ (Strategic Dialogue) ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและได้จัดตั้งขึ้นสืบเนื่องจากการเยือนโปแลนด์ของนายกรัฐมนตรีเมื่อปี ๒๕๕๖