การบรรยายพิเศษ และการเสวนาเกี่ยวกับการศึกษาโบราณคดีบ้านเชียง ฉลอง ๑๘๕ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สหรัฐฯ

การบรรยายพิเศษ และการเสวนาเกี่ยวกับการศึกษาโบราณคดีบ้านเชียง ฉลอง ๑๘๕ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สหรัฐฯ

วันที่นำเข้าข้อมูล 20 ก.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 1,200 view

                กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับสถาบันโบราณคดีภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Institute for Southeast Asian Archaeology - ISEAA) ของสหรัฐฯ จะจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และมุมมองใหม่ ของการศึกษาแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในปัจจุบัน ในโอกาสการฉลองครบรอบ ๑๘๕ ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี โดยได้เชิญผู้แทนส่วนราชการด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาจารย์และนักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน

                กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญ ดร. Joyce White ผู้อำนวยการ ISEAA และหนึ่งในคณะขุดสำรวจแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงร่วมไทย - สหรัฐฯ เมื่อปี ๒๕๑๗ พร้อมด้วย ดร. Marie-Claude Boileau ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องปั้นดินเผา และนักวิชาการประจำพิพิธภัณฑ์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๓ กันยายน ๒๕๖๑ ในฐานะวิทยากรพิเศษ เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมในการศึกษา วิจัยแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง โดยเฉพาะการใช้แนวทางพหุสาขา (multidisciplinary approach) อาทิ โบราณโลหะวิทยา พฤกษศาสตร์โบราณคดี เพื่อช่วยเพิ่มมิติการเรียนรู้เข้าใจที่กว้างและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ วิถีชีวิต สังคม วัฒนธรรมของผู้คนที่อาศัยในพื้นที่บ้านเชียงและบริเวณใกล้เคียงกันในยุคก่อนประวัติศาสตร์

                กิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้น ได้แก่ การบรรยายพิเศษในหัวข้อ“บทเรียนจากบ้านเชียงในการแก้ไขปัญหาโลก” โดย ดร. Joyce White ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๑ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และการสัมมนาวิชาการ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี

                ความร่วมมือไทย - สหรัฐฯ เกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงดำเนินมากว่า ๕๐ ปี นับจากที่นายสตีเฟ่น ยัง บุตรชายอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้พบกลุ่มหม้อไหโบราณที่ทับถมกันอยู่ในพื้นที่ของตำบล บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี โดยบังเอิญ นำไปสู่การร่วมขุดสำรวจพื้นที่และศึกษาวิจัยระหว่างกรมศิลปากรกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ ทำให้ค้นพบแหล่งอารยธรรมในช่วงยุคหินใหม่ที่มีอายุประมาณ ๕,๐๐๐ ปีก่อนประวัติศาสตร์ ความสำคัญของแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้รับการยอมรับจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ซึ่งขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ ๔ ของไทยเมื่อปี ๒๕๓๕

                ความร่วมมือไทย - สหรัฐฯ ส่งผลสำเร็จก้าวหน้าเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดำเนินตามพระราชปรารภในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ครั้งเสด็จพระราชดำเนินยังพื้นที่ขุดสำรวจเมื่อปี ๒๕๑๕ ซึ่งทรงย้ำความสำคัญของการร่วมศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ระหว่างหน่วยงานไทยกับต่างประเทศเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาการและเผยแพร่ข้อมูลพร้อมจิตสำนึกอนุรักษ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่และผู้มาเยี่ยมชม สายสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่ผูกโยงผ่านเรื่องโบราณคดีบ้านเชียงจึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนว่าภาคประชาชนสามารถเป็นได้ทั้งจุดเริ่มต้น ปัจจัยขับเคลื่อน และปลายทางของความร่วมมือที่ส่งผลสนองประโยชน์ รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่จะร่วมอนุรักษ์มรดกโลกแห่งนี้สืบไป