กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี ส่งเจ้าหน้าที่ของสมาคมกอรีฯ เพื่อสนับสนุน ดูแล และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการทดสอบการอ่านและท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานในต่างประเทศ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๖ รายการ ดังนี้

          ๑. การทดสอบการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานเยาวชนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ บรูไนดารุสซาลาม

          ๒. การทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและการท่องจำฮาดิษ ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

          ๓. การทดสอบการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานนานาชาติ ครั้งที่ ๒๕ ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

          ๔. การทดสอบท่องจำและอ่านคัมภีร์อัลกุรอานระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๘ เมษายน ๒๕๖๑ ณ รัฐคูเวต

          ๕. การทดสอบการอ่านและท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๖๐ ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ มาเลเซีย

          ๖. งานรางวัลการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานดูไบนานาชาติ ครั้งที่ ๒๒ ระหว่างวันที่ ๑ - ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

          นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่สมาคมกอรีแห่งประเทศไทยฯ ในการจัดการทดสอบกอรีภายในประเทศส่วนกลางและการทดสอบท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร อีกด้วย   

          โครงการสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยกระทรวงการต่างประเทศขอชื่นชมนักกอรี (นักอ่านคัมภีร์อัลกุรอานทำนองเสนาะ) และนักฮาฟิซ (นักท่องจำคัมภีร์อัลกุรอาน) ตัวแทนประเทศไทยทุกท่านที่ได้เข้าร่วมการทดสอบ ในเวทีระดับระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์และต่อยอดทักษะให้แก่ผู้เข้าร่วมต่อไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สมาคมกอรีฯ ที่เข้าร่วมคณะยังมีโอกาสได้พบปะและแนะแนวการศึกษากับนักศึกษาชาวไทยมุสลิมในประเทศที่มีการจัดการทดสอบอีกด้วย

          อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศเริ่มดำเนินโครงการสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อสร้างโอกาสให้นักกอรีและนักฮาฟิซไทยได้แสดงความสามารถเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมโลกมุสลิม และสร้างเครือข่ายกับวงการกอรีและฮาฟิซสากล ซึ่งนับเป็นการดำเนินงานการทูตวัฒนธรรมเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศมุสลิมในระดับประชาชน