คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ
แถลงข่าวร่วม
การเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาอย่างเป็นทางการ
ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย
ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ตามคำเชิญของนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ นายกรัฐมนตรีได้พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีศรีลังกา เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ วิชาการ การเกษตร ประมง วัฒนธรรม ศาสนา การท่องเที่ยว และความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี ผู้นำทั้งสองยินดีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้นและเป็นมิตรมาอย่างยาวนานระหว่างไทยและศรีลังกา พร้อมทั้งยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ในปัจจุบันไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ในการหารือฯ ผู้นำทั้งสองประเทศยังได้ระลึกถึงผลสำเร็จของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีศรีลังกาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘
ประธานาธิบดีศรีลังกาย้ำกับนายกรัฐมนตรีว่า ศรีลังกามีความยินดีที่จะมอบหน่อโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งแสดงถึงความปรารถนาดีที่จะถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนไทย ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อเรื่องดังกล่าว และแจ้งว่าฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการเตรียมการจัดพิธีรับมอบหน่อโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ฯ อย่างสมเกียรติ
ในด้านความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน ผู้นำทั้งสองย้ำถึงความตั้งใจที่จะเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันเป็น ๑.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๓ พร้อมทั้งรักษาดุลการค้าระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน ในโอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองได้ประกาศเปิดการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับศรีลังกา โดยทั้งสองฝ่ายแสดงความเชื่อมั่นว่าความตกลงดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ การเจรจาความตกลงการค้าเสรี ครั้งที่ ๑ จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา
ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันใน ๑๐ สาขาสำคัญ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดทำร่างแผนปฏิบัติการในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการค้าระหว่างไทยกับศรีลังกาครั้งต่อไป ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นที่ศรีลังกา
นายกรัฐมนตรีแจ้งประธานาธิบดีศรีลังกาเกี่ยวกับความสนใจของบริษัทไทยที่จะเข้าไปลงทุนในศรีลังกา ซึ่งประธานาธิบดีศรีลังการับทราบด้วยความยินดี และทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของไทยในศรีลังกา
ในด้านความร่วมมือทางวิชาการ ทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม “แผนการดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา” ซึ่งแผนการดำเนินโครงการดังกล่าวมุ่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างกว้างขวางขึ้นในศรีลังกา โดยความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยยกระดับสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจของชุมชนชนบทในศรีลังกา
ประธานาธิบดีศรีลังกาแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือทางวิชาการด้านการทำฝนหลวงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำและชลประทานสำหรับการเกษตรในศรีลังกา รวมทั้งแสดงความยินดีต่อความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรของทั้งสองประเทศ และขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทยสำหรับการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญในการแสวงหาแนวทางที่เป็นไปได้ในการพัฒนาการเกษตรในศรีลังกา นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองเน้นย้ำความสำคัญของการจัดการประชุมคณะทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรและประมงระหว่างกัน รวมถึงการที่ทั้งสองฝ่ายจัดลำดับความสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อเสนอโครงการที่ประสงค์จะให้มีความร่วมมือระหว่างกัน
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาว่าด้วยการโอนตัวผู้กระทำความผิดและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าพื้นฐานระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับกระทรวงอุตสาหกรรมพื้นฐาน ศรีลังกา นอกจากนี้ ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับสภาหอการค้าแห่งซีลอนด้วย
ภายหลังการหารือ ประธานาธิบดีศรีลังกาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะที่ทำเนียบประธานาธิบดี ขณะที่นายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกาเป็นเจ้าภาพการหารือระหว่างอาหารเช้ากับนายกรัฐมนตรีและคณะในวันรุ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เมืองแคนดี และสักการะพระธาตุเขี้ยวแก้ว ตลอดจนนมัสการมหานายกะวัดมัลวัตตะ และมหานายกะวัดอัสกิริยาแห่งสยามนิกาย พร้อมทั้งเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์แห่งเปราเดนนิยา และปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึกในโอกาสเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการ
ความสำเร็จของการเยือนระดับสูงครั้งนี้สะท้อนถึงความเป็นหุ้นส่วนอันยาวนานระหว่างไทยกับศรีลังกา และประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งมีรากฐานจากความใกล้ชิดทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม ที่ได้เพิ่มพูนขึ้นจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๑