เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เพื่อหารือและติดตามการเตรียมการของไทย ซึ่งไทยจะรับมอบตำแหน่งประธานจากสิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ ระหว่างพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๓ และไทยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒
ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของการเตรียมการเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทยจากคณะอนุกรรมการทั้ง ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการด้านสารัตถะ (๒) คณะอนุกรรมการด้านพิธีการและอำนวยการ (๓) คณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร และ (๔) คณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ การขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ที่คาบเกี่ยวทั้ง ๓ เสาประชาคมอาเซียน ได้แก่ ความเชื่อมโยง ความยั่งยืน และการวางแผนสำหรับอนาคตเพื่อการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และสามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ประชุมยังได้หารือถึงประเด็นหลัก ๆ เช่น แนวคิดหลัก (Theme) ของการประชุม การเตรียมการจัดทำเว็บไซต์กลาง ตราสัญลักษณ์ (Logo) การพิจารณาสถานที่จัดการประชุมต่าง ๆ ซึ่งต้องรองรับการประชุมผู้นำและการประชุมสำคัญ ๆ ในระดับต่าง ๆ ซึ่งจะมีไม่น้อยกว่า ๑๖๐ การประชุมตลอดทั้งปี การรักษาความปลอดภัยและการจราจร เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีและที่ประชุมให้ความความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับบทบาทและประโยชน์ของอาเซียนต่อประเทศไทยและประชาชนคนไทย การเป็นเจ้าภาพที่ดี และการสร้างความเป็นเจ้าภาพและความรู้สึกร่วมทั้งในระดับประชาชนและระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับเยาวชนในการมีส่วนร่วมเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนและการเป็นประธานอาเซียนของไทย
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอเชิญชวนให้ร่วมกันเสนอผลงานมาร่วมประกวด Logo ของ การเป็นประธานอาเซียนของไทย ซึ่งจะนำมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ของทุกการประชุมและกิจกรรมในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียนตลอดปี ๒๕๖๒ โดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และเครือข่ายมหาวิทยาลัยได้จัดการประกวดออกแบบภายใต้โครงการประกวดออกแบบระดับเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ ๒ ซึ่งเปิดให้เยาวชนอายุไม่เกิน ๒๕ ปีจากทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน – ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๑ (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่
http://www.mfa.go.th/main/th/news3/6886/90742)
อนึ่ง คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง ๔ ด้าน จะได้นำแนวทางและผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติฯ ไปปฏิบัติและหารือในรายละเอียดเพื่อให้มีความคืบหน้าและรายงานผลในการประชุมครั้งต่อไป