เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับนางเทรีซา เมย์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะกระชับความสัมพันธ์และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือในระดับภูมิภาค และประเด็นระดับโลกต่าง ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน
ฝ่ายสหราชอาณาจักรเห็นว่าการเยือนครั้งนี้เป็นการเปิดประตูด้านการค้าและการลงทุน โดยฝ่ายสหราชอาณาจักรสนใจการลงทุนในเขต EEC ของไทย ซึ่งสหราชอาณาจักรได้ขยายวงเงินสินเชื่อภายใต้ UK Export Finance (UKEF) ๔.๕ พันล้านปอนด์ เพื่อส่งเสริมให้เอกชน SMEs ของสหราชอาณาจักรเข้าไปลงทุนในทุกห่วงโซ่อุปทานในเขต EEC และได้เพิ่มงบประมาณสำหรับกองทุนนิวตัน ซึ่งเป็นกองทุนด้านวิจัยและพัฒนาให้กับไทย อีกปีละ ๔ ล้านปอนด์ จากเดิมที่จัดสรรไว้ ๒๐ ล้านปอนด์ หรือ ๑,๐๐๐ ล้านบาท เป็นระยะเวลา ๕ ปี
นายกรัฐมนตรียินดีที่สหราชอาณาจักรพร้อมที่จะเพิ่มการค้าการลงทุนกับไทยในเขต EEC และขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนไทยในการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายใต้กองทุนนิวตัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะทบทวนนโยบายการค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่สหราชอาณาจักรออกจากอียู และเห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนการทำงานของสภาผู้นำธุรกิจไทย - สหราชอาณาจักร เพื่อเป็นกลไกในการวางรากฐานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างกันต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้ขอให้สหราชอาณาจักรมองไทยเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่จะก้าวไปพร้อมกัน ไม่เฉพาะแต่การมีส่วนร่วมโครงการลงทุนในไทยเท่านั้น แต่ให้มองไทยเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค ซึ่งไทยและสหราชอาณาจักรสามารถเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนากันได้ โดยเฉพาะภายใต้กรอบความร่วมมือ ACMECS และนโยบาย Thailand + 1 นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมสนับสนุนการเพิ่มบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหราชอาณาจักรในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๖๒
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นระดับโลกต่าง ๆ โดยไทยได้แสดงความพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนกับสหราชอาณาจักรในการต่อต้านการค้ามนุษย์และการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการต่อต้านลัทธิหัวรุนแรง การใช้อาวุธเคมี และความมั่นคงในภูมิภาค
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรชื่นชมในพัฒนาการทางการเมืองของไทยที่เดินหน้าตาม Roadmap ไปสู่การเลือกตั้ง และเชื่อมั่นว่าการปฏิรูปของไทยจะก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง