เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้นำพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย ยื่นสัตยาบันสารพิธีสาร ค.ศ. ๒๐๑๔ ของอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ แก่นาย Guy Ryder ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยไทยเป็นประเทศลำดับที่ ๒๔ ของรัฐสมาชิกองค์การแรงงานระหว่างประเทศ และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่ยื่นสัตยาบันพิธีสารฯ ดังกล่าว
ไทยให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization – ILO) ฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยการเกณฑ์แรงงานหรือแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ อย่างไรก็ดี เนื่องจากรูปแบบของการเกณฑ์แรงงานหรือแรงงานบังคับในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ต่อมาจึงมีการพัฒนาพิธีสารฯ เพื่อปิดช่องว่างของอนุสัญญาฯ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการการป้องกัน คุ้มครอง ช่วยเหลือ เยียวยา รวมทั้งการปราบปรามการใช้แรงงานบังคับให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การให้สัตยาบันพิธีสารฉบับนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของไทยในการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ตลอดจนการคุ้มครอง ช่วยเหลือ และเยียวยาผู้เสียหายจากการใช้แรงงานบังคับในไทย รวมถึงสะท้อนเจตนารมณ์ของไทยในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานแรงงานของไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานแรงงานสากล โดยพิธีสารฯ จะมีผลบังคับใช้ในอีก ๑๒ เดือนถัดไป นับจากวันที่ให้สัตยาบัน หรือวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๒
นอกจากนี้ เพื่ออนุวัติการพิธีสารดังกล่าว รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ พ.ศ. .... ซึ่งมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับในประเทศ และสอดคล้องกับทั้งอนุสัญญาฯ และพิธีสารฯ