เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ เพื่อเร่งรัดการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ภาคประมงในเขตพื้นที่ ๒๒ จังหวัดชายทะเล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประมง
หน่วยเฉพาะกิจดังกล่าวได้จัดตั้งทีมตรวจจับพิเศษ ๕ ทีม ซึ่งเป็นการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมประมง และกระทรวงแรงงาน เพื่อให้สามารถเข้าจับกุมเรือประมงที่ทำผิดในทะเลได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยเบาะแสและข้อมูลในเชิงลึก โดยในการออกปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑ ทีมตรวจจับพิเศษสามารถจับกุมเรือไทยและเรือต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมายประมงและกฎหมายแรงงานได้ถึง ๕๐ คดี เป็นเรือประมงไทยที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับแรงงานประมงและการทำประมง ๑๙ ลำ เรือสัญชาติอื่นที่ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน ๗ ลำ และมีเรือประมงที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับแรงงานอย่างเดียวอีก ๒๔ ลำ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางปกครอง
หน่วยเฉพาะกิจสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างบรรลุเป้าหมาย โดยสามารถจับกุมการกระทำผิดในทะเลได้เป็นจำนวนมากในช่วงระยะเวลาอันสั้น ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจนี้จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะช่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของศูนย์เฝ้าระวังเรือเข้า – ออก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังที่ท่าเรือ เพื่อให้มั่นใจว่าการตรวจสอบทั้งที่ท่าเรือและในทะเลจะเป็นมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ที่คิดกระทำผิดหลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่เข้มงวดได้