กระทรวงการต่างประเทศดำเนินโครงการบัวแก้วสัญจร ครั้งที่ ๑ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๒๗ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ จังหวัดพิจิตรและจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะ นำทีมเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปให้ข้อมูลและเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องการต่างประเทศ รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงาน ในจังหวัด ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม นักเรียน/นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการดำเนินงานของกระทรวงฯ ตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชนและการทูตประชารัฐ โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการบัวแก้วสัญจรที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ดำเนินการแล้ว ๕๕ จังหวัด และมีแผนที่จะดำเนินโครงการให้ครบ ๗๖ จังหวัดต่อไป
กิจกรรมของโครงการบัวแก้วสัญจรในครั้งนี้ ประกอบด้วย
๑. การหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้แทนหน่วยงานภาครัฐของจังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์
๒. การบรรยายเรื่องภารกิจด้านกงสุล พิธีการทูต และภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับหน่วยงานต่างประเทศ ณ ศาลากลางจังหวัดพิจิตร และศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้เชิญผู้แทนจากส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักเรียน/นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม
๓. การเยี่ยมเยือนโรงเรียนอนุบาลโพทะเล จังหวัดพิจิตร และโรงเรียนบ้านโป่งบุญเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนในเครือข่ายมูลนิธิยุวทูตความดี ในพระราชูปภัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
๔. การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้แก่ สถานีวิทยุท้องถิ่นของจังหวัดพิจิตร สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่นต่าง ๆ ของทั้งสองจังหวัด
๕. การเยี่ยมชมและพบปะหารือกับชุมชนท้องถิ่น คณะฯ ได้เยี่ยมชุมชนบ้านโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร มีจุดเด่นคือ โบราณสถานวัดโพธิ์ประทับช้าง ศูนย์ส่งออกส้มโอศูนย์โอทอปผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส้มโอ และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสามัคคีโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ สุดยอดศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ประเภทรางวัลคุณภาพผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา การเยี่ยมชมดังกล่าวเป็นโอกาสให้คณะฯ ได้ให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องแก่ชุมชน รวมทั้งรับฟังข้อมูล อุปสรรค ปัญหา และข้อเสนอแนะโดยตรงจากพื้นที่ เพื่อให้กระทรวงฯ สามารถช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของชุมชนดังกล่าว ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์จุดเด่น/ผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชนดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ตามแนวทาง “เชื่อมไทยสู่โลก เชื่อมโลกสู่ไทย”