อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกและโอเชียเนียของอิหร่านเข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย – อิหร่าน และเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกและโอเชียเนียของอิหร่านเข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย – อิหร่าน และเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 พ.ย. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,377 view
          เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นายมะห์มูด ฟาราแซนเด (Mahmoud Farazandeh) อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย - อิหร่าน (Political Consultations) ครั้งที่ ๓ ที่กรุงเทพฯ โดยมีนายเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนง อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป็นประธาน และในวันเดียวกัน นายฟาราแซนเดฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย 
          ในการประชุมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย - อิหร่าน นั้น นายฟาราแซนเดฯ ได้กล่าวย้ำแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นที่หลากหลาย โดยแจ้งถึงพัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจในภาพรวมของแต่ละฝ่ายให้ได้รับทราบความคืบหน้าเพื่อเป็นข้อมูลในการแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน รวมถึงด้านการเงินและการธนาคารด้วย
          ในด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่การเยือนของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อต้นปี ๒๕๕๙ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายการค้าไว้จำนวน ๓ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๔ ทั้งนี้ มูลค่าทางการค้าในช่วง ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๖๐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า ๗๔๖.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นร้อยละ ๑๕๐.๖๑ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายอิหร่านพิจารณานำเข้าข้าวเพิ่มมากขึ้น เหมือนเช่นในอดีตที่ฝ่ายอิหร่านเคยนำเข้าข้าวจากไทยในจำนวนประมาณ ๗ แสนตันต่อปี และอาจผลักดันให้มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบัน ฝ่ายอิหร่านได้นำเข้าข้าวจากไทยเป็นจำนวน ๒ แสน ๕ หมื่นตันแล้ว ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน ๒๕๖๐ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้ขอให้ฝ่ายอิหร่านนำเข้ามันสำปะหลัง ผลไม้ไทย และยางพารา
          ในด้านการลงทุน ทั้งสองฝ่ายหารือเรื่องความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ซึ่งฝ่ายไทยแสดงความประสงค์จะเข้าไปลงทุนด้านพลังงาน อุตสาหกรรมเหล็ก และอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปในอิหร่าน ในขณะเดียวกัน ฝ่ายอิหร่านได้แจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลงทุนด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ อุตสาหกรรมปุ๋ย และเคมีภัณฑ์ 
          ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงทางสังคม (social connection) ในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในความตกลงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันแล้ว และจะกำหนดวันและสถานที่ในการลงนามความตกลงต่อไป  และด้านการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ เช่น ด้านการเกษตร และประมง รวมถึงทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะให้มีการศึกษาวิจัยวิจัยร่วมระหว่างนักวิชาการ สถาบันวิชาการ  มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในด้านนาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ยา และการรักษาโรค เช่น มะเร็ง             
          นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายฟาราแซนเดฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน การเงินและการธนาคาร โดยเฉพาะการซื้อขายข้าวและยางพาราที่มีมูลค่าการค้าสูงขึ้นมาก ในโอกาสดังกล่าว นายวีระศักดิ์ฯ ได้สอบถามความเป็นไปได้ในการให้อิหร่านนำเข้ายางพาราจากไทย ซึ่งนายฟาราแซนเดฯ แสดงความสนใจ และกระทรวงการต่างประเทศได้จัดนัดหมายให้นายฟาราแซนเดฯ พบหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับยางพาราด้วยแล้ว
 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ