เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนางชีค ฮาสินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ระหว่างการเดินทางเยือนบังกลาเทศเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย – บังกลาเทศ ครั้งที่ ๗ (7^th Thailand – Bangladesh Joint Commission Meeting: JC) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวขอบคุณบังกลาเทศที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JC ซึ่งว่างเว้นมาเป็นเวลาเกือบ ๑๙ ปี และยินดีที่ได้มีโอกาสเยือนบังกลาเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดกับไทยและมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกันตลอดมา

          นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศได้ชื่นชมความสำเร็จของไทยในการพัฒนาด้านเกษตรและประมง และเป็นเกียรติที่ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแพะพันธุ์แบล็คเบงกอลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อประโยชน์ในการเพาะพันธุ์สำหรับโครงการพระราชดำริ และรัฐบาลบังกลาเทศจะกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนบังกลาเทศอีกครั้ง ในช่วงต้นปี ๒๕๖๑ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความสำเร็จในด้านการพัฒนาด้านการเกษตรของไทย เป็นผลมาจากพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงวางแนวทางการพัฒนาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ชาวไทย

          ฝ่ายบังกลาเทศยังได้ย้ำถึงความจำเป็นในการซื้อข้าวนึ่งและข้าวขาวอย่างเร่งด่วนจากไทยจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ ตัน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารซึ่งเป็นผลจากภาวะอุทกภัย โดยฝ่ายไทยแจ้งว่า ยินดีสนับสนุนข้าวให้บังกลาเทศเพื่อประโยชน์ในการสำรองข้าวและส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารให้กับบังกลาเทศ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะหารือกับบังกลาเทศในรายละเอียดต่อไป

          ในด้านเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า บังกลาเทศเป็นทั้งคู่ค้าและแหล่งการทุนที่สำคัญของไทยในเอเชียใต้ โดยเฉพาะด้านการลงทุน ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำของไทยมาลงทุนหลากหลายสาขา และคาดว่าจะมีภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอีก จึงขอให้รัฐบาลบังกลาเทศคุ้มครอง
และอำนวยความสะดวกแก่บริษัทไทย โดยสาขาการลงทุนที่มีศักยภาพมาก คือ ด้านพลังงาน ซึ่งในขณะนี้ มีภาคเอกชนไทยอยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการสร้างบริษัทพลังงานไฟฟ้าจากขยะขนาดใหญ่ จึงขอให้บังกลาเทศสนับสนุนด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยมาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของบังกลาเทศ ซึ่งปัจจุบัน ญี่ปุ่น อินเดียและจีนได้เข้ามาดำเนินโครงการลงทุนต่าง ๆ ด้วยแล้ว

         นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า จะกระชับความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาคกับบังกลาเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และไทยจะสนับสนุนการสมัครเป็นผู้สังเกตการณ์ของบังกลาเทศในกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง – คงคา (MGC)

          อนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศเยือนไทย เพื่อรักษาพลวัตความสัมพันธ์ในระดับผู้นำ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศไม่ได้เยือนไทยมากว่า ๔ ปีแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศแจ้งว่า จะพิจารณาความเป็นไปได้ต่อไป ทั้งนี้ บุคคลในครอบครัวของตนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับชาวบังกลาเทศอื่น ๆ ที่เดินทางไปท่องเที่ยวและรักษาพยาบาลที่ไทยจำนวนมากในแต่ะละปี