ตามที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้รับการร้องทุกข์ว่ามีพนักงานนวดหญิงไทย ๑๐ คน ถูกนายจ้างชาวจีนหลอกลวงมาทำงานและถูกลอยแพ ที่นครเทียนจิน ประเทศจีน เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือพนักงานนวดทั้งหมดให้เดินทางออกจากร้านสปาและมาพัก ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งประสานกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของกรุงปักกิ่ง ทำให้พนักงานนวดไทยทั้ง ๑๐ คน สามารถเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐

          จากการสอบถามพนักงานนวดทั้ง ๑๐ คน ได้รับทราบว่า ทั้งหมดได้หางานจากสื่อสังคมออนไลน์ (social media) และการแนะนำแบบปากต่อปากในกลุ่มไลน์ของพนักงานนวด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและแพร่หลายการติดต่อหางานในลักษณะนี้มีความเสี่ยงต่อการถูกนายหน้าหลอกและได้รับข้อมูลเท็จต่าง ๆ แต่เมื่อเดินทางถึงจีน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คุยกับนายจ้างไว้ โดยเฉพาะไม่มีการทำสัญญาการว่าจ้างงาน และเดินทางเข้าจีนโดยการตรวจลงตราที่ผิดประเภท ซึ่งนายจ้างและล่ามชาวไทยจะอ้างว่าจะดำเนินการเรื่องการตรวจลงตราเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย แต่จะถ่วงเวลาให้ทำงานไปเรื่อย ๆ จนพำนักในจีนเกินกำหนด (overstay) ซึ่งผิดกฎหมายเข้าเมืองของจีน และเสี่ยงต่อการถูกจับกุมและดำเนินคดี พนักงานนวดจึงมาร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้แจ้งความกับสำนักงานตำรวจนครเทียนจิน และกระทรวงความมั่นคงภายในของจีน เพื่อดำเนินคดีกับร้านสปา ซึ่งสำนักงานตำรวจนครเทียนจินรับคำร้องและจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป

          กระทรวงการต่างประเทศขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยที่ประสงค์จะไปทำงานในประเทศจีนศึกษาสัญญาจ้างงานโดยละเอียด และลงนามในสัญญาจ้างงานให้เรียบร้อย ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน (หากมี) ก่อนเดินทางไปทำงาน รวมทั้งขอรับการตรวจลงตราที่ถูกประเภท เพื่อที่จะสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมด้านแรงงานและสวัสดิการกับนายจ้างได้ และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศเจ้าบ้าน นอกจากนี้ ขอให้หางานในต่างประเทศโดยวิธีที่น่าเชื่อถือและพิจารณาให้ถี่ถ้วน โดยควรปรึกษากรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน

          อนึ่ง กรณีนี้มิใช่ครั้งแรกที่พนักงานนวดไทยตกทุกข์ได้ยากที่นครเทียนจิน โดยเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๘ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับคำร้องจากพนักงานนวดไทย ๔ คน ที่ถูกนายจ้างเอาเปรียบเรื่องสัญญาว่าจ้าง และขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ประสานกับนายจ้างชาวจีน ทำให้นายจ้างชาวจีนยอมปรับรายละเอียดสัญญาจ้าง ให้เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว พนักงานนวดไทยทั้ง ๔ คน มีความรอบคอบและได้รับการตรวจลงตราถูกประเภท ซึ่งแตกต่างจากกรณีหพนักงานนวดไทย ๑๐ คน ข้างต้น