กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และ Korea International Cooperation Agency (KOICA) เตรียมลงนามในแผนปฏิบัติการเพื่อร่วมกันจัดฝึกอบรม (Action Plan between the Thailand International Cooperation Agency and the Korea International Cooperation Agency on the Joint Training Program) ให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน (ยกเว้นบรูไนและสิงคโปร์) และติมอร์ – เลสเต ระยะเวลา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๒) ในเรื่องทรัพยากรน้ำและการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการเกษตรและการจัดการสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (Memorandum of Understanding between the Thailand International Cooperation Agency and the Korea International Cooperation Agency on Strengthening Partnership for International Development Cooperation) ซึ่งกรมความร่วมมือฯ และ KOICA ได้ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๗

          ภายใต้แผนปฏิบัติการข้างต้น กรมความร่วมมือฯ และ KOICA จะร่วมกันจัดฝึกอบรมปีละ ๒ หลักสูตร ได้แก่ (๑) หลักสูตร Sustainable Agriculture and Environmental Management based on Sufficiency Economy Philosophy (SEP) ที่ประเทศไทย จัดฝึกอบรมโดยมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี และ (๒) หลักสูตร Water Resource Development and Management ที่สาธารณรัฐเกาหลี สำหรับผู้แทนจากประเทศอาเซียน ๘ ประเทศ และติมอร์ – เลสเต รวม ๑๐๘ คน เพื่อพัฒนาศักยภาพ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน

          อนึ่ง การดำเนินความร่วมมือไตรภาคีดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในลักษณะหุ้นส่วนที่จะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เป้าหมายที่ ๑๗ เรื่องการสร้างความร่วมมือระดับสากลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals) โดยการอบรมหัวข้อด้านทรัพยากรน้ำจะช่วยสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถบรรลุเป้าหมายที่ ๖ เรื่องการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและพร้อมใช้สำหรับทุกคน (Clean Water and Sanitation) และเป้าหมายที่ ๑๔ เรื่องการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (Life Below Water) นอกจากนี้ การอบรมในหัวข้อที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็นกลไกสำคัญในการดำเนินความร่วมมือหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา และขับเคลื่อนการพัฒนาที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SEP for SDGs Partnership)