นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชน ได้เยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามคำเชิญของนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงินแห่ง สปป.ลาว

 

ในระหว่างการเยือน รองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และผู้นำภาคธุรกิจของไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว และหารือข้อราชการแบบเต็มคณะกับนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของ สปป. ลาว เพื่อหารือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาของทั้งสองประเทศ โดยได้มีการหารือกันในประเด็นสำคัญต่าง ๆ

 

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในฐานะการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (partnership for sustainable development) เพื่อความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ฝ่ายไทยแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของ สปป.ลาว ที่จะพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developing Country) ในปี ๒๕๖๓ 

 

นอกจากนี้ ฝ่ายลาวยังเห็นพ้องกับข้อเสนอของฝ่ายไทยที่จะจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา เพื่อให้สองประเทศพัฒนาอย่างเกื้อกูลกัน โดยตกลงที่จะร่วมกันดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ การเกษตร การท่องเที่ยว การศึกษา และสาธารณสุข ตามแผนความร่วมมือวิชาการไทย – ลาว

 

ฝ่ายไทยย้ำความพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของลาวในการเปลี่ยน land locked เป็น land linked ของสปป.ลาว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันจัดทำแผนแม่บทการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ และขยายความเชื่อมโยงภายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน สะพาน รถไฟ ท่าเรือ และการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการขนส่งข้ามแดน เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนตามแนวชายแดน และการท่องเที่ยวสองฝ่าย โดยเริ่มที่จุดผ่านแดนมุกดาหาร-สะหวันนะเขตเป็นลำดับแรกให้สามารถเปิดใช้พื้นที่ควบคุมร่วมกัน (common control area) ภายในปี ๒๕๖๐ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้เห็นพ้องที่จะเร่งรัดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ ๕ ระหว่าง จ.บึงกาฬ – แขวงบอลิคำไซ และการสร้างสะพานรถไฟที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ ๑ (หนองคาย - เวียงจันทน์) 

 

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมเพิ่มปริมาณการค้าสองฝ่ายให้สูงกว่า ๑ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน ๕ ปี โดยใช้ประโยชน์จากทุกกลไก การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน การยกระดับจุดผ่านแดน และให้ความสำคัญกับบทบาทของภาคเอกชน ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านตลาดทุน ฝ่ายไทยเชิญชวนและสนับสนุนการจดทะเบียนของบริษัทลาวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย และการระดมทุนผ่าน Infrastructure fund เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน สปป.ลาว และสนับสนุนนโยบายการเป็น Battery of Asia ของลาว และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการจัดทำแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวข้ามแดนร่วมกันภายใต้แนวคิด Two Countries, One Destination โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวสองฝ่ายไปหารือกันในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ ยังได้เห็นพ้องที่จะพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนร่วมกันในลักษณะที่ไม่แข่งขันกันแต่ส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

 

นอกจากการหารือในประเด็นข้างต้นแล้ว ภาครัฐของทั้ง ๒ ฝ่ายได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ๑ ฉบับ ด้านการส่งเสริมหุ้นส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไทย – ลาว ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กับ Department of Small and Medium Enterprises Promotion แห่ง สปป. ลาว และภาคเอกชนไทยและลาวได้ลงนามบันทึกข้อตกลง จำนวน ๑๑ ฉบับ ในด้านการศึกษา การร่วมลงทุนทางธุรกิจ และการฝึกอบรมวิชาชีพ

 

การเยือน สปป. ลาวอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงินแห่ง สปป.ลาว สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์อันดี และมิตรภาพอันแนบแน่นของทั้งสองประเทศ ตลอดจนความพร้อมเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอันจะนำไปสู่ความเจริญมั่งคั่งของประชาชนทั้งสองฝั่งโขงสืบต่อไป