ด้วยระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนติมอร์ – เลสเต อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายเฮอร์นานี โคยู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ – เลสเต
การเดินทางเยือนติมอร์ – เลสเต ครั้งนี้ นับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ ๗ ปี ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งตรงกับวันครบรอบ ๑๕ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับติมอร์ฯ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ โดยไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนและเป็นประเทศลำดับที่สามของโลกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับติมอร์ฯ ต่อจากนอร์เวย์และจีน
การเยือนติมอร์ฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับติมอร์ฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ และเข้าร่วมพิธีสาบานตนของนายฟรานซิสกู กูเตร์เรส ลู โอโล ประธานาธิบดีติมอร์ฯ คนใหม่ รวมทั้งงานเฉลิมฉลองการครบรอบ ๑๕ ปีของการฟื้นฟูเอกราชติมอร์ฯ นอกจากนี้ ยังได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดี และนายรุย มาเรีย เด อราอูซู นายกรัฐมนตรีติมอร์ฯ ด้วย
ในการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่างไทยกับติมอร์ฯ โดยฝ่ายติมอร์ฯ ได้แจ้งเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาประเทศในช่วง ๕ ปีข้างหน้า (ค.ศ. ๒๐๑๗ - ๒๐๒๒) ได้แก่ (๑) การพัฒนาเศรษฐกิจใน ๔ สาขาหลัก คือ การเกษตร การป่าไม้และการประมง การแสวงหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในทะเลติมอร์ การท่องเที่ยว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยประสงค์ให้ไทยมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของติมอร์ฯ ในสาขาดังกล่าว โดยเฉพาะในสาขาประมง ฝ่ายติมอร์ฯ เชิญชวนให้ฝ่ายไทยมาทำประมงในน่านน้ำติมอร์ฯ ซึ่งติมอร์ฯ กำหนดการออกใบอนุญาตการทำสัมปทานในน่านน้ำติมอร์ฯ จำนวน ๑๐๐ ใบ ขณะนี้ได้ออกใบอนุญาตการสัมปทนาทำประมงให้แก่จีนไปแล้ว ๑๗ ใบ และ (๒) การส่งเสริมบทบาทของติมอร์ฯ ในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ ในกรอบความร่วมมือประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกส การเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศในอาเซียนกับแอฟริกา และอาเซียนกับประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก ตลอดจนการสมัครเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ฯ นอกจากนี้ ฝ่ายติมอร์ฯ ได้แจ้งความประสงค์ในการเรียนรู้จากประสบการณ์ของไทยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำมาปรับใช้ในบริบทของติมอร์ฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แจ้งถึงความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับฝ่ายติมอร์ฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในสาขาข้างต้น และตามแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๑) ซึ่งประกอบด้วยสาขาการเกษตร การสาธารณสุข การท่องเที่ยว และการพัฒนาขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านปศุสัตว์โดยเฉพาะการเลี้ยงไก่เพื่อบริโภคภายในของติมอร์ฯ และเสนอให้ติมอร์ฯ พิจารณาเข้าเป็นสมาชิกกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) และการประชุมสมาคมแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim Association - IORA) เพื่อส่งเสริมสถานะของติมอร์ฯ ในเวทีระหว่างประเทศ ภายหลังการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างกัน
ในการเยือนติมอร์ฯ ครั้งนี้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศได้เยี่ยมชมโครงการหมู่บ้านต้นแบบตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นโครงการที่ฝ่ายไทยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การทำเกษตรแบบผสมผสานและยั่งยืนให้แก่กลุ่มเกษตรนำร่องของติมอร์ฯ และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่โรงเรียนประถมศึกษา Acanuno และโรงเรียนมัธยมศึกษา Ensino Basico Hera โดยได้มอบเงินสนับสนุน อุปกรณ์กีฬา ชุดยาสามัญประจำบ้าน และเมล็ดพันธุ์พืชให้แก่โรงเรียนทั้งสองแห่งด้วย