นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ – เลสเต อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามคำเชิญของ นายเฮอร์นานี โคยู (H.E. Mr. Hernani Coelho) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ
ในการเยือนติมอร์ฯ อย่างเป็นทางการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ ร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ และเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ เป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและคณะ รวมทั้งเข้าร่วมพิธีสาบานเข้ารับตำแหน่งของนายฟรานซิสกู กูเตร์เรส ลูโอโล (H.E. Mr. Francisco Guterres Lu Olo) ว่าที่ประธานาธิบดีติมอร์ฯ และงานเฉลิมฉลองวันฟื้นฟูเอกราชติมอร์ฯ ในช่วงค่ำของวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ รวมถึงเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีติมอร์ฯ ด้วย
การเยือนติมอร์ฯ ครั้งนี้ ตรงกับการเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๕ ปี วันฟื้นฟูเอกราชติมอร์ฯ และครบรอบ ๑๕ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับติมอร์ฯ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยและติมอร์ฯ ในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน และหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในอนาคต
ในการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับ (๑) การส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนากับติมอร์ฯ ภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาฯ ๓ ปี ระยะที่ ๓ (๒๕๕๙ - ๒๕๖๑) ในสาขาการเกษตร สาธารณสุข ท่องเที่ยว และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ และสนับสนุนติมอร์ฯ บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศปี ค.ศ. ๒๐๑๑ - ๒๐๓๐ (Strategic Development Plan 2011 - 2030) รวมถึงโครงการหมู่บ้านต้นแบบตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่เมืองเฮรา ซึ่งมุ่งให้ความรู้การทำเกษตรแบบผสมผสานเพื่อให้เกษตรกรติมอร์ฯ ที่เข้าร่วมโครงการสามารถพึ่งพาตนเองและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มุ่งผลิตอาหารให้เพียงพอต่อการบริโภคของนักเรียนและใช้ประโยชน์จากโครงการในการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรและวิทยาศาสตร์ และ (๒) การแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในสาขาที่ติมอร์ฯ มีความต้องการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน
อนึ่ง ไทยและติมอร์ฯ มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีติมอร์ฯ เดินทางมาประเทศไทย เพื่อวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งนี้ การค้าไทยกับติมอร์ฯ ยังมีมูลค่าไม่มากนัก (๔๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากติมอร์ฯ เป็นตลาดขนาดเล็ก ไทยเป็นตลาดส่งออกอันดับ ๙ ของติมอร์ฯ และภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนเปิดธุรกิจบริการ อาทิ ร้านอาหาร และสปา