เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน – ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นาย Mahmoud Al Habbash ที่ปรึกษาประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ด้านกิจการศาสนาและความสัมพันธ์ทางศาสนาอิสลามและผู้พิพากษาสูงสุดแห่งศาลชารีอะฮ์เดินทางเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่าง ๆ รวมถึงด้านกิจการศาสนา โดยได้หารือและพบปะกับผู้นำศาสนาท้องถิ่นและชุมชนมุสลิมในไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ การให้ความร่วมมือ ประสานงาน และช่วยเหลือรัฐบาลในการต่อต้านการก่อการร้าย และนำมาซึ่งสันติภาพและการพัฒนา ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับมุสลิมสายกลาง
ระหว่างการเยือน นาย Mahmoud Al Habbash ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจุฬาราชมนตรี ตลอดจนพบหารือกับนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยได้หารือถึงลู่ทางการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะ ด้านความร่วมมือทางวิชาการและการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนารัฐปาเลสไตน์ โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่นจัดการประชุมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ (Conference on Cooperation among East Asian Countries for Palestinian Development – CEAPAD) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓ ในปี ๒๕๖๐
นอกจากนี้ นาย Mahmoud Al Habbash ได้พบปะพูดคุยกับจุฬาราชมนตรี ผู้นำศาสนาต่าง ๆ และเยี่ยมชมชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนไทยพุทธและไทยมุสลิม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพฯ โดยแสดงความประทับใจที่ได้เห็นคนต่างศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และได้เน้นย้ำในระหว่างที่พบปะชุมชนมุสลิมในไทยว่า การเป็นมุสลิมที่แท้จริงจะต้องรู้จักหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ร่วมกันสร้างความเจริญและความมั่นคงให้แก่ประเทศ ไม่สร้างปัญหา และร่วมกันตอบแทนบุญคุณประเทศ นอกจากนี้ ศาสนาอิสลามและศาสนาอื่น ๆ ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ไม่อยากเห็นการทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง และให้ทุกคนเคารพการเป็นมนุษย์
นาย Mahmoud Al Habbash ได้ศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจพอเพียงและการส่งเสริมการประกอบอาชีพและยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่ตำบลลุมพลี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ปรึกษาประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ฯ ชื่นชมหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและจะนำไปปรับใช้ในการพัฒนาและการส่งเสริมความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์
อนึ่ง ไทยรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ปัจจุบัน ได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน มีเขตอาณาครอบคลุมรัฐปาเลสไตน์ สำหรับรัฐปาเลสไตน์ได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศมาเลเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย