เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๐ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยนายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการก่อนการประชุมสุดยอดด้วย
นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียน ๔ การประชุม ได้แก่ (๑) การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๓๐ (การประชุมเต็มคณะ) (๒) การประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat) (๓) การประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน และ (๔) การประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนเยาวชนอาเซียน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle – IMT-GT) ครั้งที่ ๑๐
ที่ประชุมยินดีต่อพัฒนาการทางบวกในทะเลจีนใต้ที่จะส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน และเร่งการจัดทำ แนวทางประมวลการจัดทำการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (Framework on the Code of Conduct in the South China Sea) ระหว่างอาเซียนกับจีนสำเร็จภายในกลางปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้ นอกจากนี้ ที่ประชุมมีความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และหวังว่า ทุกฝ่ายจะมีความยับยั้งชั่งใจที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ส่งเสริมภูมิภาคที่มีเสถียรภาพและเป็นคาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ โดยให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติด้วย และแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี
สำหรับการประชุมอื่น ๆ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด IMT-GT ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำคัญของอนุภูมิภาคไทย อินโดนีเซียและมาเลเซีย ในการเสริมสร้างประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะในด้านการเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านกายภาพและกฎระเบียบให้สมบูรณ์ และสนับสนุนการจัดทำแผนห้าปี แผนที่ 3 (ปี 2560-2564) โดยไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนรวมทั้งนายกรัฐมนตรีร่วมลงนามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยบทบาทของราชการพลเรือนในฐานะผู้เร่งรัดให้วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 บรรลุผล ซึ่งมุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคราชการพลเรือน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประชาคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนของประชาคมอาเซียน ผ่านการทำงานของภาคราชการ
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๐ จัดขึ้นในปีที่อาเซียนครบรอบ ๕๐ ปี โดยมีฟิลิปปินส์เป็นประธานในปีนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้นำอาเซียนอื่น ๆ เน้นว่าอาเซียนควรจะทบทวนและพิจารณาสิ่งที่ประชาคมดำเนินการอย่างมีศักยภาพในอนาคตที่เน้นอาเซียนที่มีประชาชนนำ (people-oriented) และประชานเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง