กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการศึกษาดูงานภายใต้โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่ผู้บริหารกรมพัฒนาชุมชน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนจากสาธารณรัฐโมซัมบิก ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในโมซัมบิก เป็นโครงการความร่วมมือที่ไทยได้ริเริ่มขึ้นและเสนอ concept paper ให้ฝ่ายโมซัมบิกพิจารณา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุมชนต้นแบบเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดำเนินงาน นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือเป้าหมายที่ ๑๗ ของ SEP for SDGs Partnership ทั้งนี้ ฝ่ายโมซัมบิกได้แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการ โดยมีกระทรวงที่ดิน สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชนบทของโมซัมบิก เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการ

ปัจจุบัน กรมความร่วมมือระหว่างประเทศได้ดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับสาธารณรัฐโมซัมบิก ๒ โครงการ ประกอบด้วย

(๑) โครงการเพาะเลี้ยงปลานิลแดง โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศได้สนับสนุนการฝึกอบรม ทุนศึกษาปริญญาโท และการส่งผู้เชี่ยวชาญไปปฏิบัติงานและติดตามงานโครงการ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยของไทยและโมซัมบิกต่อไป

(๒) โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศได้ส่งคณะผู้แทนไปเก็บข้อมูล/สำรวจสภาพพื้นที่โครงการ ได้แก่ ๑. ชุมชนในตำบล Ilha Josina Machel  ๒. ชุมชนในตำบล Calanga อำเภอ Manhiça และ ๓. ชุมชนในตำบล Tuana อำเภอ Billene และได้มีการหารือกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนงานโครงการ โดยกิจกรรมแรกที่จะเริ่มดำเนินการเป็นการจัดการศึกษาดูงานในประเทศไทยให้แก่ผู้บริหารของกรมพัฒนาชุมชน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน จากสาธารณรัฐโมซัมบิก ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๐ นางมาเรีย กุสตาวา (Mrs. Maria Gustava) เอกอัครราชทูตโมซัมบิกประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงจาการ์ตา เข้าเยี่ยมคารวะนางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทยกับสาธารณรัฐโมซัมบิก โดยนางมาเรียฯ ได้แสดงความขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ให้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาแก่โมซัมบิกในรูปของทุนฝึกอบรม ทุนศึกษา และโครงการ และการเปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีของความสัมพันธ์และร่วมมือระหว่างกันต่อไปในอนาคต