เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามคำสั่งของฝ่ายบริหาร (Executive Order) สองฉบับ ได้แก่ (๑) คำสั่งว่าด้วยรายงานการขาดดุลการค้าที่มีนัยสำคัญ (Omnibus Report on Significant Trade Deficits) และ (๒) คำสั่งว่าด้วยจัดเก็บภาษีเพิ่มรวมถึงการบังคับใช้มาตรการสำหรับการทุ่มตลาดและการอุดหนุน และการละเมิดกฎหมายด้านการค้าและศุลกากร (Establishing Enhanced Collection and Enforcement of Antidumping and Countervailing Duties and Violations of Trade and Customs Laws)

 

คำสั่งของฝ่ายบริหารดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการขาดดุลทางการค้าและความไม่เป็นธรรมทางการค้ากับประเทศคู่ค้าบางประเทศของสหรัฐฯ และกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (United States Trade Representatives – USTR) จัดทำรายงานประเมินประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ในปี ๒๕๕๙ ภายในเวลา ๙๐ วันนับแต่วันที่คำสั่งของฝ่ายบริหารมีผลบังคับใช้ โดยหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีเนื้อหารายงานประเมินประเด็นต่าง ๆ อาทิ (๑) สาเหตุการขาดดุลการค้า (๒) กฎ/ระเบียบ/แนวปฏิบัติของประเทศคู่ค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม (๓) ขีดความสามารในการผลิตและความเข้มแข็งของฐานอุตสาหกรรมทางการทหารและการผลิตของสหรัฐฯ (๔) ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการจ้างงานและการเติบโตของการจ้างในสหรัฐฯ และ (๕) มาตรการทางการค้าและการนำเข้าที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ 

 

ขอเรียนว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการประกาศภาพรวมและไม่ได้มีการระบุประเทศใดเป็นการเฉพาะ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามพัฒนาการและหารือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการต่าง ๆ ของคำสั่งดังกล่าวต่อไป