สารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในงานสัมมนาในโอกาสครบรอบ ๑๖๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย – ฝรั่งเศส

สารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในงานสัมมนาในโอกาสครบรอบ ๑๖๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย – ฝรั่งเศส

วันที่นำเข้าข้อมูล 20 มี.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,334 view
เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๐ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้ร่วมกับสถาบันภาษาและอารยธรรมตะวันออกแห่งชาติของฝรั่งเศส (Institut National des Langues et Civilisations Orientales – INALCO) จัดสัมมนาในโอกาสครบรอบ ๑๖๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – ฝรั่งเศส โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการสัมมนา 
 
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญนักวิชาการ นักธุรกิจ และผู้ทรงคุณวุฒิชาวฝรั่งเศสจากแวดวงต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากประเทศไทยร่วมเป็นวิทยากร อาทิ ดร. เตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ศ.ดร. สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผศ.ดร. ปรีดี พิศภูมิวิถี จากมหาวิทยาลัยมหิดล
 
ในการสัมมนาดังกล่าว นายฌอง – มาร์ค อัยโรต์ (Jean-Marc Ayrault) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้มีสารถึงผู้เข้าร่วมงานสัมมนา ดังนี้
 
ประเทศฝรั่งเศสกับประเทศไทยมีสัมพันธไมตรีกันมาช้านาน สยามเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ฝรั่งเศสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตด้วยตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ โดยมีการแต่งตั้งคณะทูตเพื่อเจริญพระราชไมตรีระหว่างสมเด็จพระนารายณ์กับพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔
 
ประเทศของเราทั้งสองมีความคล้ายคลึงกัน ทั้งในด้านขนาด ประชากร ความสำคัญในยุโรปและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีความผูกพันในศิลปวัฒนธรรมและมรดกของชาติเหมือนกัน การจัดแสดงพระราชสาส์นจารึกในพระสุพรรณบัตร ซึ่งเก็บรักษาอยู่ในหอจดหมายเหตุทางการทูตในนิทรรศการที่กรุงปารีสเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นพยานที่ดีถึงรสนิยมที่เรามีร่วมกัน คือความประณีตละเอียดอ่อนของศิลปะไทย และความเชี่ยวชาญของฝรั่งเศสในการบูรณะซ่อมแซมสมบัติของชาติ 
 
ประเทศของเราทั้งสองได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนเช่นกัน การท่องเที่ยวพัฒนาขึ้นทุก ๆ ปี ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากกว่า ๖๐๐,๐๐๐ คน เดินทางไปยังประเทศไทย และยังมีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนความสัมพันธ์ของเราในภายภาคหน้า และฝรั่งเศส ให้ความสำคัญอย่างสูง มีความร่วมมือระหว่างนักวิจัยในสาขาสุขภาพอนามัยหรือเกษตรกรรม เป็นต้น ชุมชนชาวฝรั่งเศสในประเทศไทยขยายตัวขึ้น แสดงให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีที่สดใสของเรา
 
ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าหลักของฝรั่งเศสในอาเซียน บริษัทฝรั่งเศสจำนวนมากกว่า ๓๕๐ บริษัทดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสก็เปิดโอกาสให้นักธุรกิจ ของไทยมาลงทุนเป็นจำนวนมาก และเราจะสนับสนุนให้การลงทุนแพร่หลายเพิ่มขึ้น
 
ในโอกาสฉลองครบรอบ ๑๖๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของเราในครั้งนี้ และในระหว่างที่เรากับประเทศหุ้นส่วนของเราในยุโรปรอให้ประเทศไทยกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยในเร็ววัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศของเราทั้งสองจะร่วมมือกันในการเร่งรัดพัฒนา โดยมีเป้าหมายในการสร้างอนาคตที่ดีสมกับประวัติศาสตร์อันงดงามที่เรามีร่วมกัน