นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘-๒๙ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘-๒๙ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ก.ย. 2559

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 5,320 view

เมื่อวันที่ ๖-๘ กันยายน ๒๕๕๙ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๒๘ และ ๒๙ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง รวม ๑๕ การประชุม ได้แก่ การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี การประชุมสุดยอดอาเซียน บวก ๓ การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ การประชุมสุดยอดแม่โขง-ญี่ปุ่น การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา และการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ในภาพรวม ที่ประชุมได้เน้นย้ำความสำคัญของ (๑) การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อาเซียนและการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.๒๐๒๕ รวมทั้งแผนงานประชาคมอาเซียน ค.ศ. ๒๐๑๖-๒๐๒๕     (๒) การรักษาความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาค เพื่อให้อาเซียนสามารถรับมือกับความท้าทายรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่งรุนแรง อาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี และปัญหาความมั่นคงทางทะเลซึ่งรวมถึงทะเลจีนใต้ (๓) การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เช่น การยกระดับ FTA ทั้งในกรอบทวิภาคีและเร่งรัดเจรจาจัดทำ RCEP  ให้แล้วเสร็จ  การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ จากประเทศคู่เจรจา รวมทั้งการหามาตรการเพื่อส่งเสริม MSMEs และการส่งเสริมความเชื่อมโยง และ (๔) การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมทั้งการเร่งเสริมสร้างความตระหนักรู้และความรู้สึกร่วมในการเป็นพลเมืองอาเซียน (sense of belonging)  โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การจัดตั้งอาเซียนในปี ๒๕๖๐

สิ่งที่ไทยได้ผลักดันในการประชุมครั้งนี้  ได้แก่

๑) การออกแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมสุดยอดอาเซียนบวก ๓ ว่าด้วยการสูงวัยอย่างมีศักยภาพ

๒) การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานอาเซียนในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างวิสัยทัศน์อาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ กับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ

๓) การส่งเสริมความเชื่อมโยงตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ โดยคำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัยของพื้นที่ชายแดนผ่านการบริหารจัดการชายแดนที่มีประสิทธิภาพ

๔) การผลักดันให้ทะเลจีนใต้ให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน

๕) ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าอาเซียน - อินเดีย ในปี ๒๕๖๐ เพื่อฉลองความสัมพันธ์  ๒๕ ปี อาเซียน - อินเดีย

๖) การใช้ประโยชน์จากโครงการ ASEAN Connect ที่สหรัฐฯ จัดตั้งในการสร้าง Creative ASEAN

ในโอกาสการประชุมครั้งนี้ ผู้นำได้รับรองเอกสารร่วมกัน ๑๙ ฉบับ โดยเฉพาะแผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน ฉบับที่ ๓ และแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ.๒๐๒๕ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมกับผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียนลงนามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (Declaration on One ASEAN, One Response: ASEAN Responding to Disaster as One in the Region and Outside Region) ด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ