เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๙ นายฐานิศร์ ณ สงขลา กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้นำคณะข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เดินทางไปยังนครมาดีนะห์ เพื่อให้การต้อนรับผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทยที่เดินทางมากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยในวันดังกล่าวสายการบินไทย ได้ทำการขนส่งผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทยจำนวน ๗๗๕ คน ใน ๓ เที่ยวบิน โดยเป็นเที่ยวบินจากหาดใหญ่ ๑ เที่ยวบิน และจากนราธิวาส ๒ เที่ยวบิน และกำหนดถึงท่าอากาศยานนานาชาตินครมาดีนะห์ เวลา ๑๔.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. และ ๒๒.๐๐ น. โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ อาทิ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ ผู้แทนคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ กรมการศาสนา และคณะทำงานอะมีรุ้ลฮัจย์ สำนักจุฬาราชมนตรี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ภาคสนาม รวมทั้งสิ้นประมาณ ๓๐ คน ไปให้การต้อนรับ
ในวันดังกล่าวซึ่งเป็นวันแรกของการเดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียของผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทย และการเปิด Haj Terminal ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครมาดีนะห์ มีการติดขัดด้านพิธีการเข้าเมือง ทำให้ผู้ประกอบพิธีฮัจย์ทุกคนที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานในวันดังกล่าว (มาเลเซีย/อินเดีย/ตุรกี) ต้องใช้เวลาในการผ่านกระบวนการเข้าเมืองและออกมาได้ประมาณ ๔-๖ ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ประกอบพิธีฮัจย์ไทยที่มีกำหนดถึงเวลา ๑๔.๐๐ น. ออกมาที่ประตูขาออกในเวลา ๑๘.๓๐ น. เที่ยวบินที่ ๒ ซึ่งมีกำหนดถึง ๑๘.๓๐ น.ออกได้เวลา ๐๑.๐๐ น. และสำหรับเที่ยวบินที่ ๓ ซึ่งกำหนดถึงเวลา ๒๒.๐๐ น. แต่ออกมาที่ประตูขาออกได้ในเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ น. เช้าตรู่ของวันถัดไป
จากการประสานงานกับท่าอากาศยาน และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก มาเลเซีย ตุรกี และปากีสถาน ซึ่งมีผู้แสวงบุญของตนเดินทางมาถึงก่อนหน้านั้น ทราบว่าทางการซาอุดีฯ ได้ตั้งมาตรการเข้มงวดในการตรวจเอกสารและข้อมูลชีวภาพ เนื่องจากก่อนหน้านั้น มีเหตุการณ์ก่อการร้ายในซาอุดีฯ โดยเฉพาะที่นครมาดีนะห์
อย่างไรก็ดี การเดินทางมาถึงของผู้ประกอบพิธีฮัจย์ในวันที่ ๔ สิงหาคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีปัญหาด้านเอกสาร และติดขัดด้านศุลกากรแต่อย่างใด
สถานกงสุลใหญ่ฯ และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ให้การต้อนรับและพูดคุยกับกับผู้ประกอบพิธีฮัจย์ชาวไทยนำไปยังสถานที่พักเพื่อพักผ่อนและรอการขนส่งที่จัดโดยฝ่ายซาอุดีฯ ไปยังที่พักต่อไป
อนึ่งข้อมูล ล่าสุด เวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๗ สิงหาคม มีผู้แสวงบุญไทยเดินทางถึงซาอุดีฯ แล้ว ๓,๗๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๘ จากจำนวนผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ทั้งสิ้น จำนวน ๙,๖๐๒ คน