เมื่อวันที่ ๑๐ – ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีสาระสำคัญดังนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าเยี่ยมคารวะนายยูซุฟ คัลลา รองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดยรองประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ส่งความปรารถนาดีมายังนายกรัฐมนตรี และยินดีต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศที่เป็นไปอย่างราบรื่น และได้มีการฉลองครบรอบ ๖๕ ปี ความสัมพันธ์ไปเมื่อปี ๒๕๕๘ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าในฐานะที่อินโดนีเซียและไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองในอาเซียน จึงมีศักยภาพที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันได้ในหลายมิติ อาทิ ด้านประมง ด้านความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีความใกล้ชิด ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนระดับสูงเพิ่มมากขึ้น โดยไทยได้ย้ำคำเชิญของนายกรัฐมนตรีให้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเยือนไทยในอย่างเป็นทางการ และเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน-ยุโรป ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ตลอดจนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม (Joint Commission – JC) ครั้งที่ ๙ ที่อินโดนีเซียเสนอจะเป็นเจ้าภาพในช่วงครึ่งปีหลังของปี ๒๕๕๙ รวมถึงฝ่ายอินโดนีเซียยังได้เสนอให้มีการหารือระดับเจ้าหน้าที่เทคนิคในเรื่องเกี่ยวกับเขตแดนทางทะเลในโอกาสแรก เพื่อสานต่อการหารือจากการประชุมระดับเจ้าหน้าที่เทคนิคเมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๔ เมษายน ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมมูลค่าการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตลอดจนเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้ายระหว่างประเทศ แนวคิดสุดโต่ง ยาเสพติด การค้ามนุษย์ รวมถึงการลักลอบค้าสัตว์ป่าสงวน ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือกันในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรอบความร่วมมืออาเซียนที่ทั้งสองประเทศมีบทบาทสาคัญ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียยังได้กล่าวสนับสนุนการสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ วาระปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ ของไทยอีกด้วย

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับนายเล เลือง มินห์ เลขาธิการอาเซียน โดยทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยในโอกาสที่จะครบรอบ ๕๐ ปีของการก่อตั้งอาเซียนในปี ๒๕๖๐ ทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นพ้องที่จะเร่งดาเนินมาตรการที่จะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับอาเซียน ตลอดจนสร้างประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง โดยจะเร่งหามาตรการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือประสิทธิภาพในการทำงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือกับนานาประเทศและเรียนรู้ประสบการณ์จากประเทศคู่เจรจาและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยไทย ในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป พร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายต่อไป ทั้งนี้ เลขาธิการอาเซียนได้กล่าวชื่นชมไทยว่าเป็นประเทศที่มีความตระหนักรู้ด้านอาเซียนสูงเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับนางซูซี ปูยีอาสตูติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทะเลและประมงอินโดนีเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และขาดการควบคุม (IUU) อย่างเป็นรูปธรรม โดยฝ่ายไทยได้เสนอมาตรการระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น จะเชิญผู้แทนระดับสูงของอินโดนีเซียเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการประมงไทย-อินโดนีเซีย และลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประมงไทย-อินโดนีเซีย และในระยะยาว จะร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่องในอินโดนีเซีย โดยมุ่งการส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้า และแสดงความขอบคุณทางการอินโดนีเซียที่ได้อำนวยความสะดวกในการส่งตัวลูกเรือประมงไทยกลับประเทศได้แล้วกว่า ๑,๘๐๐ คนโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทะเลฯ ได้ชื่นชมการดำเนินการของไทยในการแก้ไขปัญหาประมง และพร้อมที่จะร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาประมงในระยะยาวต่อไป