เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุมหารือกับผู้แทนภาคเอกชนและภาคประชาสังคม (NGOs) เรื่องความคืบหน้าของการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป สมาคมอุตสาหกรรมทูน่า สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมประมงแห่งประเทศไทย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และผู้แทน NGOs ๗ หน่วยงาน ได้แก่ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) มูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก (FACE) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) มูลนิธิเพื่อนหญิง กลุ่มหญิงสู้ชีวิต มูลนิธิพิทักษ์สตรี และศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเล (Stella Maris) เข้าร่วม
         การหารือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลของภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และIUU และเพื่อแสวงหาความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกของไทยและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
         ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้สรุปความคืบหน้าการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของรัฐบาลซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการยุติธรรมโดยการตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ในอัยการและศาล และการเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกเหยื่อ และในส่วนของการแก้ไขปัญหา IUU มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตราพระราชกำหนดการประมงฉบับใหม่ ซึ่งจะทำให้การปราบปรามการค้ามนุษย์ในภาคประมงเกิดผลสัมฤทธิ์มากขึ้น มีการบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ส่งผลให้มีการจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ในภาคประมงไปแล้วหลายราย
         ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง และเห็นพ้องร่วมกันในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การจัดตั้ง Working Group เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน การค้ามนุษย์ และ IUU พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่ภาคประชาสังคมเสนอให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงต่อไป โดยการดำเนินงานดังกล่าวจะเป็นความร่วมมือในลักษณะ Public-Private-Civil Society Partnership (PPCP) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม และจะมีการประสานความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างกว้างขวางเพื่อสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศต่อไป
ผลการประชุมครั้งนี้ทำให้ได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์เพื่อความร่วมมือแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหา IUU อย่างบูรณาการโดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียจากหลายภาคส่วนได้มีส่วนร่วม ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมต่อไป