เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ (ThaiBiz.net)  กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมาร์ (Thai Business Association of Myanmar หรือ TBAM) และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ตลอดจนพันธมิตรผู้สนับสนุน ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Myanmar Insight – เมียนมาร์เชิงลึก” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ให้ความสนใจร่วมรับฟังการสัมมนาประกอบด้วยผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่และรายย่อยถึงกว่า ๕๐๐ คน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนาโดยเน้นย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและข้อได้เปรียบของภาคเอกชนไทยในการทำการค้าการลงทุนในเมียนมาร์ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านยุทธศาสตร์ของไทย ซึ่งรัฐบาลได้เร่งเสริมสร้างและผลักดันความสัมพันธ์ในทุกมิติโดยเฉพาะความเชื่อมโยงทางโครงสร้างพื้นฐานและการอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน เพื่อตอบสนองต่อพลวัตด้านเศรษฐกิจของเมียนมาร์ อาทิ การยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน เพื่อเป็นรากฐานให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยสามารถข้ามไปเสริมสร้างความร่วมมือกับฝ่ายเมียนมาร์ได้อย่างคล่องตัวและราบรื่นมากขึ้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ “ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ (ThaiBiz)” และ “ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในต่างประเทศหรือ BIC (Business Information Center)” ในหลายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก ว่า เป็นกลไกที่กระทรวงการต่างประเทศได้สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ

ในงานสัมมนาครั้งนี้ นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้รับทราบเกี่ยวกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองเชิงลึกในแง่มุมต่าง ๆ  อาทิ ประเด็นความเชื่อมโยงในภูมิภาคและศักยภาพทางเศรษฐกิจของเมียนมาร์ จากนายชุตินทร คงศักดิ์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และประเด็นนโยบายแผนเศรษฐกิจและการเมืองในเมียนมาร์จากนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง รวมถึงประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจจากนักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนค้าขายในเมียนมาร์ ภายในงานยังมีการออกบูธโดยบริษัทเอกชนไทยหลายรายที่ทำการค้าการลงทุนในเมียนมาร์และเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำธุรกิจในพื้นที่แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจอยากไปเปิดตลาดในเมียนมาร์