นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือนายหลัว เป่าหมิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลไห่หนาน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือนายหลัว เป่าหมิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลไห่หนาน

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ก.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 2,579 view

เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับและพบหารือกับนายหลัว เป่าหมิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ซึ่งเดินทางเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ

นายหลัวฯ ได้นำคณะผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ของมณฑลไห่หนาน เยือนประเทศไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนนโยบายเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑ ของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยฝ่ายไห่หนานต้องการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาพุทธศาสนากับไทย เนื่องจากทางมณฑลฯ ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลกลางให้จัดตั้งวิทยาลัยพุทธศาสนาขึ้นที่วัดหนานซานในมณฑลไห่หนาน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพุทธศาสนาระหว่างจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือในกรอบ “หนึ่งแถบ หนึ่งทาง” (One Belt One Road) ของผู้นำจีนด้วย นอกจากนี้ ยังต้องการส่งเสริมการลงทุนจากภาคธุรกิจไทยในไห่หนานและส่งเสริมความร่วมมือในระดับประชาชน  โดยเฉพาะภายใต้กรอบเมืองพี่เมืองน้องระหว่างไห่หนานกับจังหวัดภูเก็ตซึ่งดำเนินความสัมพันธ์มาครบรอบ ๑๐ ปีในปีนี้

นอกเหนือจากการพบหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ในการเยือนไทยครั้งนี้ นายหลัวฯ และคณะยังได้เข้าเยี่ยมคารวะนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อหารือเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรมและพุทธศาสนาระหว่างไทยกับไห่หนาน   เข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมไหหนำแห่งประจำประเทศไทย พบหารือกับผู้นำภาคธุรกิจของไทย รวมทั้งยังมีกำหนดเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือในกรอบบ้านพี่เมืองน้องกับนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตด้วย

ทั้งนี้ มณฑลไห่หนาน มีความโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและด้านการท่องเที่ยว โดยได้รับการผลักดันจากรัฐบาลกลางทั้งในด้านงบประมาณและนโยบายให้พัฒนาเป็นเกาะท่องเที่ยวนานาชาติภายในปี ๒๕๖๓ นอกจากนี้ ไห่หนานยังเป็นมณฑลที่มีสัดส่วนภาคเกษตรกรรมต่อ GDP สูงที่สุดในจีน โดยเป็นแหล่งผลไม้เขตร้อนที่สำคัญของจีน เหมาะกับการตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร รวมทั้งเป็นสถานที่จัดการประชุม Boao Forum for Asia เป็นประจำทุกปี ซึ่งจีนประสงค์จะผลักดันให้เวทีนี้เป็นดัง World Economic Forum ที่เมือง Davos ของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ไห่หนานกับไทยยังคงมีมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันไม่สูงมากนัก จึงมีศักยภาพขยายความร่วมมือกันได้อีกมาก โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการแปรรูปสินค้าเกษตร

ไห่หนานเป็นแหล่งตากอากาศชายทะเลที่สำคัญและได้รับการขนานนามเป็น “ฮาวายของจีน”  ในปี ๒๕๕๗ มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวมณฑลไห่หนาน ๕๒.๖๘ ล้านคน รัฐบาลมณฑลไห่หนานมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันมีโรงแรม ระดับ ๕ ดาว จำนวนมาก รวมถึงโรงแรมของไทย เช่น Anantara Resort & Spa Sanya และ Dusit Thani นอกจากนี้ ไห่หนานยังเป็นถิ่นกำเนิดของชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมาก โดยปัจจุบัน คาดว่ามีชาวไทยเชื้อสายจีนไห่หนาน (ไหหลำ) กว่า ๑ ล้านคน ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับไห่หนาน และไทยกับจีนในภาพรวม

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ