การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Foreign Ministers’ Retreat) ไทย-เวียดนาม

การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Foreign Ministers’ Retreat) ไทย-เวียดนาม

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 พ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,424 view

         เมื่อวันที่ ๒๔ - ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม พร้อมภริยาและคณะได้เดินทางเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการ (Foreign Ministers’ Retreat) ที่จังหวัดภูเก็ตและกรุงเทพฯ ตามคำเชิญของพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
         การหารือดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งในท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร โดยสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และความร่วมมือที่สำคัญให้ก้าวหน้า ตั้งแต่ความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ การคมนาคมและการเชื่อมโยง การเกษตร การประมง และการฉลองครบรอบ ๔๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีรายละเอียดดังนี้
        การเตรียมการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนามและการประชุมอยู่ในระหว่างการเตรียมการคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๓ สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแบ่งการหารือออกเป็น๓ กลุ่ม ได้แก่ (๑) การเมืองและความมั่นคง (๒) เศรษฐกิจ (๓) สังคมวัฒนธรรม และการศึกษา
และเห็นพ้องที่จะจัดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และอยู่ในระหว่างการเตรียมการจัดทำความตกลง อาทิ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน ความตกลงว่าด้วยการจ้างงาน ความตกลงเมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับจังหวัดคอนตูม และจังหวัดตราดกับจังหวัดลองอาน เป็นต้น
        การขับเคลื่อนความสัมพันธ์ ฝ่ายไทยได้แจ้งความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเมืองและความมั่นคง (JWG on PSC) ครั้งที่ ๗ ในเดือนมิ.ย. ๒๕๕๘ ที่กรุงเทพฯ และการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ ๒ ภายในปี ๒๕๕๘
         นอกจากนี้ สองฝ่ายเห็นชอบที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการจัดกิจกรรมตลอดปี ๒๕๕๙ ทั้งในไทยและในเวียดนาม เพื่อฉลองครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – เวียดนาม โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานหลัก
         ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสนอให้เพิ่มเป้าหมายมูลค่าการค้าทวิภาคีจากเดิม ๑๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น ๒๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๓ นอกจากนี้ เวียดนามรับจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามเพื่อผ่อนผันการนำเข้าผลไม้ไทย ๔ ชนิด (มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย เงาะ) และสำหรับด้านการลงทุน ฝ่ายเวียดนามยินดีรับพิจารณาข้อเสนอของไทยที่ให้จัดตั้งกลไกอย่างไม่เป็นทางการเพื่อปรึกษาหารือด้านกฎระเบียบการลงทุนและการเจรจาแก้ไขอุปสรรค/ข้อพิพาท
ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและเวียดนาม
         ความร่วมมือด้านการคมนาคมและการพัฒนาความเชื่อมโยง ฝ่ายเวียดนามยินดีจัดการประชุมคณะทำงานร่วม (ไทย – ลาว – วน.) ครั้งที่ ๑ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมฯ เพื่อผลักดันความร่วมมือ ว่าด้วยการเปิดบริการรถโดยสารประจำทางไทย - ลาว -  เวียดนาม สำหรับการพัฒนาการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเลไทย – เวียดนาม ฝ่ายเวียดนามเสนอให้ฝ่ายไทยจัดประชุมคณะทำงานร่วม (ไทย – กัมพูชา – เวียดนาม) เพื่อหารือเรื่องการเดินเรือตามชายฝั่งทะเลก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมฯ เช่นกัน
         ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพราคาของข้าวและยางพาราในตลาดโลก
การประชุมเป็นไปด้วยดีทำให้ความสัมพันธ์ไทยกับเวียดนามมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และสามารถกระชับความร่วมมือทวิภาคีในกรอบต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ