รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเปิด งานสัมมนาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านการโยกย้ายถิ่นฐาน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเปิด งานสัมมนาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านการโยกย้ายถิ่นฐาน

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 พ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,980 view

         เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand: UNCT) จัดงานสัมมนาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านการโยกย้ายถิ่นฐาน (Development Cooperation Seminar on Migration) ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุม และพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายการจัดการแรงงานต่างด้าวของไทย

         โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ผู้แทนสำนักงานองค์การต่างๆ ของสหประชาชาติที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งร่วมอยู่ใน UNCT อาทิ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) รวมทั้งผู้แทนคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า ๖๐ คน
         รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาที่มากับการโยกย้ายถิ่นฐาน และเน้นความมุ่งมั่นของไทยในการจัดระเบียบการทำงานต่างด้าวเพื่อให้เข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน ตลอดจนการเร่งเพิ่มความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในประเด็นที่ยังคงเป็นความท้าทายของไทย อาทิ การคุ้มครองสิทธิแรงงานอย่างครอบคลุม การจัดระเบียบนายหน้าหางาน และการปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมถึงเน้นย้ำบทบาทสร้างสรรค์ของไทยในกรอบความร่วมมือในระดับภูมิภาค อาทิ กระบวนการบาหลี และการริเริ่มการหารือการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ด้วย
         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวถ้อยแถลงเน้นเป้าหมายการให้แรงงานต่างด้าวทั้งระบบเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์และการคุ้มครอง โดยการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้แรงงานใช้ช่องทางเข้าเมืองที่ถูกกฎหมาย รวมทั้งมาตรการปัจจุบันในการจดทะเบียนแรงงานประมงและการตรวจสัญชาติแรงงานซึ่งมีความคืบหน้าตามลำดับ  นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความพร้อมของไทยในการให้สัตยาบันอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศต่างๆ เพิ่มเติมโดยเฉพาะการให้สัตยาบันอนุสัญญาแรงงานทางทะเล ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และยังมีอีกราว ๓-๔ ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานไทย
         นายลุค สตีเวนส์  ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทยเน้นย้ำความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนของไทยและแสดงความชื่นชมความคืบหน้าของไทยในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ตลอดจนแสดงความพร้อมที่หน่วยงานสหประชาชาติในประเทศไทยจะร่วมกับไทยจัดการกับความท้าทายต่างๆ ในอนาคต
        นายเจฟฟรีย์ ลาโบวิทส์  ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานประจำประเทศไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะเรื่องของสหประชาชาติว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐาน ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสะท้อนจากการที่นายกรัฐมนตรีจัดให้ประเด็นการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ และการจัดตั้งกลไกเพื่อจัดการปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานประมงเป็นการเฉพาะ รวมถึงความสำเร็จในการเปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จเพื่อจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แรงงานต่างด้าวนอกระบบสามารถเข้าถึงการคุ้มครองและบริการต่างๆ ที่พึงได้ ทั้งนี้ นายลาโบวิทส์ ได้แสดงความพร้อมของคณะทำงานฯ ที่จะร่วมมือและปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นความท้าทาย อาทิ การจัดระเบียบการนำเข้าแรงงานในระยะยาว และการเข้าถึงบริการทางสังคมและความคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างด้าวอย่างครอบคลุม

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ