เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย – แอฟริกา (Asian - African Ministerial Meeting) ณ กรุงจาการ์ตา  สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

หัวข้อหลักของการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย – แอฟริกา ได้แก่เรื่องสามเสาหลักของหุ้นส่วนใหม่ทางยุทธศาสตร์เอเชีย – แอฟริกา (New Asian – African Strategic Partnership – NAASP) ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้านการเมือง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม ที่ประชุมฯ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียและแอฟริกาใต้เป็นประธานร่วม ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับหุ้นส่วนใหม่ทางยุทธศาสตร์เอเชีย – แอฟริกา โดยเฉพาะด้านการพัฒนา ซึ่งเป็นความท้าทายที่สำคัญของกลุ่มประเทศในเอเชียและแอฟริกา ซึ่งที่ประชุมได้ย้ำความสำคัญของการนำความร่วมมือแบบใต้ – ใต้ มาใช้เป็นกรอบในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอเชียและแอฟริกา เพื่อนำไปสู่การบรรลุสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลก

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ แสดงความยินดีต่อการครบรอบ ๖๐ ปี การประชุมบันดุง (Bandung Conference) ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ได้ทรงเข้าร่วม และได้ย้ำถึงเจตนารมย์ของไทยในการดำเนินการตามพันธกรณีของหุ้นส่วนใหม่ทางยุทธศาสตร์เอเชีย – แอฟริกา ในปี ๒๕๔๘ โดยไทยสนับสนุนการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียและประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ภายใต้กรอบความร่วมมือแบบใต้ – ใต้ เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก และพร้อมให้ความร่วมมือด้านการพัฒนาและความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา โดยเฉพาะในการแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้พบหารือกับนายมหินทรา บาฮาดูร์ ปันเดย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และการกระชับความสัมพันธ์ในระดับประชาชน โดยเนปาลประสงค์ให้ไทยเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา เพื่อนำองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีจากไทยไปพัฒนาประเทศ ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือทางวิชาการแก่เนปาล โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรและการเสริมสร้างศักยภาพในสาขาที่เนปาลสนใจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเนปาล ซึ่งปัจจุบัน ไทยได้มอบทุนการศึกษาและฝึกอบรม พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญไทยไปฝึกอบรมแก่บุคลากรเนปาล ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องให้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างประชาชนระหว่างกัน โดยไทยได้ขอบคุณรัฐบาลเนปาลที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวไทยที่เดินทางไปแสวงบุญที่ลุมพินีกว่าสองหมื่นคนเป็นอย่างดีทุกปี

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้แทนรัฐบาลที่เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย – แอฟริกา