รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ

วันที่นำเข้าข้อมูล 20 มี.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 3,813 view


          เมื่อวันที่ ๑๙ - ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ และเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission on Bilateral Cooperation – JCBC) ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ ๒ ที่กรุงฮานอย ตามคำเชิญของนายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
              ๑. การหารือทวิภาคี
                  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเจือง เติ๊น ซาง ประธานาธิบดีเวียดนาม เวียดนาม โดยประธานาธิบดีเวียดนามได้ถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีทรงมีพระชนมายุยืนยาวและทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวเชิญประธานาธิบดีเวียดนามเยือนไทย
                  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทวิภาคีกับนายฝ่าม บิ่งห์ มิงห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของไทยและเวียดนามตามแผนปฏิบัติการเพื่อความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม ปี ๒๐๑๕ - ๒๐๑๘ และสานต่อผลการเยือนของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๗ – ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยการหารือเป็นไปท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร โดยทั้งสองฝ่ายได้ใช้โอกาสนี้หารือแนวทางในการสานความร่วมมือที่ดำเนินมาให้เพิ่มพูนขึ้นในทุกสาขาอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนสนับสนุนการเป็นประชาคมอาเซียนในปีนิ้ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนสองประเทศและของภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้เชิญนายเหวียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นประธานร่วมการประชุม Joint Cabinet Retreat ครั้งที่ ๓ ที่ไทยเสนอเป็นเจ้าภาพในช่วงไตรมาสที่ ๒ ของปีนี้ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเยือนไทยเพื่อหารืออย่างไม่เป็นทางการ (Foreign Ministers’ Retreat) เพื่อเตรียมการจัดการประชุมดังกล่าว
             ๒. การประชุม JCBC ไทย – เวียดนาม ครั้งที่ ๒
                 ในภาพรวม ที่ประชุมพอใจอย่างยิ่งกับพัฒนาการของความสัมพันธ์ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับเวียดนาม และมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกสาขาสำคัญ
                   ด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายยินดีที่หน่วยงานด้านความมั่นคงมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด และเห็นพ้องให้กระชับความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกรณีเรือประมงรุกล้ำน่านน้ำเพื่อทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ปัญหาในประเด็นนี้ และยินดีต่อการจัดตั้งคณะกรรมการด้านนโยบายกลาโหมระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหมฯ ของทั้งสองฝ่ายเป็นประธาน เพื่อช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพ
                   ด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมยินดีที่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ๒๕๕๗ มูลค่าการค้าทวิภาคีไทย - เวียดนามสูงกว่า ๑๑,๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ ๑๓ จากปี ๒๕๕๖ ซึ่งจะช่วยบรรลุเป้าหมายการค้า ๑๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ๒๕๖๓ โดยไทยพร้อมให้การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าของเวียดนามในไทย และผลักดันให้มีการประชุมระหว่างภาคเอกชนโดยสภาธุรกิจของทั้งสองฝ่าย 
                ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของไทยในเวียดนาม โดยเฉพาะด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งหากแล้วเสร็จ จะเพิ่มมูลค่าการลงทุนของไทยในเวียดนามอีก ๕ เท่า ในการนี้ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณเวียดนามที่ดูแลนักลงทุนไทยเป็นอย่างดีและขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ทั้งนักลงทุนของไทยที่สนใจเข้ามาลงทุนในเวียดนามในอนาคตด้วย นอกจากนั้น ไทยได้เสนอให้เวียดนามพิจารณาใช้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมเงินทุนสำหรับภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนเวียดนาม
                นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อโครงการสร้างโรงไฟฟ้าที่จังหวัดกว่างจิ โดยบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล โดยไทยขอให้เวียดนามให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดอลลาร์เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินโครงการ
                   ด้านความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันพัฒนาความเชื่อมโยงทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวรวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ในระดับประชาชน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการเพื่อจัดทำความตกลง ๓ ฝ่าย ได้แก่ (๑)ความตกลงสำหรับการเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางระหว่างไทย - สปป.ลาว - เวียดนาม และ(๒) ระหว่างไทย - กัมพูชา - เวียดนาม และ (๓) ความตกลงสำหรับการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเลระหว่างไทย - กัมพูชา - เวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายจะเร่งหารือกับลาวและกัมพูชา และจัดตั้งคณะทำงานสามฝ่ายเพื่อนำไปสู่การดำเนินการในทางปฏิบัติโดยเร็ว ทั้งนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) ไทย - ลาว – เวียดนามในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘
                   ด้านแรงงาน ที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยเวียดนามแสดงความขอบคุณที่ไทยได้ให้การดูแลอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนแรงงานเวียดนามในไทย โดยทั้งสองฝ่ายจะเร่งการเจรจาจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทยกับเวียดนามและความตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน เพื่อนำไปสู่การจัดระบบแรงงานต่างด้าวและการนำเข้าแรงงานเวียดนามในไทยอย่างถูกกฎหมาย และเห็นพ้องให้ร่วมมือกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบและเหมาะสม
                   ด้านสังคม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ ๔๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - เวียดนามในปี ๒๕๕๙ โดยกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะเป็นหน่วยงานหลักในการวางแผนจะจัดกิจกรรมในไทยและเวียดนามตลอดปี โดยมุ่งเน้นกิจกรรมที่มีผลยั่งยืนและเข้าถึงประชาชน
ในวงกว้าง
                 นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยกับเวียดนาม เพื่อผลักดันและเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการต่างประเทศและการทูตระหว่างไทยกับเวียดนาม ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JCBC ครั้งที่ ๓ ในปี ๒๕๕๙

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ