เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘  พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับนายเบร็นดัน รอเจอรส์ เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ในโอกาสที่นายรอเจอร์เข้ารับตำแหน่งและในโอกาสที่ไทยและไอร์แลนด์ฉลองครบรอบ ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแสดงความยินดีที่นายรอเจอรส์เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทยเป็นคนแรกและยินดีต่อการเปิดสถานเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ทางการทูตที่แนบแน่นระหว่างสองประเทศ โดยไอร์แลนด์ประสงค์จะให้ไทยเปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดับลิน เช่นกัน นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ขอบคุณไอร์แลนด์ที่ช่วยประสานงานเรื่องเตรียมการการประชุม ASEM Symposium on the Future Direction of ASEM ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน โดยปัจจุบันมูลค่าทางการค้าระหว่างสองประเทศอยู่ที่ ๘๑๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ไก่แปรรูป ยางพารา ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากไอร์แลนด์ที่สำคัญได้แก่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ในด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์เดินทางเข้ามาประเทศไทยกว่า ๖๓,๐๐๐ คน ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยไอร์แลนด์ประสงค์ที่จะเชื้อเชิญให้คนไทยไปท่องเที่ยวในไอร์แลนด์มากขึ้น ปัจจุบันมีคนไทยพำนักอาศัยอยู่ในไอร์แลนด์ประมาณ ๓,๐๐๐ คน โดยประกอบอาชีพลูกจ้างในร้านอาหาร ภาคเกษตรและโรงแรม

 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแนวทางการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจของไอร์แลนด์มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกว่าร้อยละ ๔.๘ ในปีที่ผ่านมา โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชื่นชมไอร์แลนด์ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การพัฒนาการศึกษาและสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการลงทุน